ปัจจุบันไทยและจีน อยู่ภายใต้ความตกลงทางการค้าร่วมกันทั้งหมด 2 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2547 โดยลดอัตราภาษีนำเข้าระหว่างกันครอบคลุมสินค้ามากกว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าที่มีการค้าระหว่างกัน
และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาร์เซ็ปต์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา โดยลดอัตราภาษีนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิก ครอบคลุมสินค้าร้อยละ 65 ของรายการสินค้าที่มีการค้าระหว่างกัน
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ การขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ระหว่างไทยและจีน ในปี 2566 เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่า ของการใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้าที่มีอยู่ พบว่า สัดส่วนมูลค่าการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ต่อมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของไทยสูงกว่าจีน แต่หากพิจารณาเฉพาะมูลค่าขอใช้สิทธิพบว่า จีนมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในมูลค่าที่สูงกว่าไทย
จากข้อมูลการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าปี 2566 ไทยมีมูลค่าการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ที่ร้อยละ 60 ของมูลค่าการส่งออกรวม เทียบกับจีน ที่ขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า อยู่ที่ร้อยละ 32
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในมิติของมูลค่า จีนมีมูลค่าการขอใช้สิทธิประโยชน์ 22,905 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่ามูลค่าการขอใช้สิทธิประโยชน์ของไทย ซึ่งอยู่ที่ 20,578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในสินค้าทุเรียนสดสูงที่สุด ขณะที่จีนใช้สิทธิประโยชน์สูงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้า
โดยประเทศไทย ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในการส่งออกทุเรียน เป็นมูลค่า 4,021 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของมูลค่าส่งออกสินค้าดังกล่าว
ขณะเดียวกัน จีนใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า เป็นมูลค่า 2,464 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 97 ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากจีน
ดังนั้น หากเปรียบเทียบเฉพาะสินค้าสำคัญอันดับ 1 ของทั้งสองประเทศ ไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในมูลค่าที่สูงกว่าจีน
ความตกลงทางการค้าระหว่างไทย-จีน มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของไทย โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร ที่ไทยมีความได้เปรียบ เช่น ทุเรียน มันสำปะหลัง โดยจะเห็นได้ว่า ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้าระหว่างไทยและจีน ได้ค่อนข้างสูง และยังมีโอกาสขยายการใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางการค้าได้อีกมาก