เวลา 11.30 น. วันที่ 2 ต.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม.จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พา 2 สามีภรรยาชาวต่างชาติ ต้องการมาเรียนมวยไทย แต่กลับถูกหลอกทำวีซ่าเข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจกองปราบปราม
จ่าคิงส์ เปิดเผยว่า สองสามีชาวเช็กและจีน เดินทางมาพร้อมล่ามคนไทย แจ้งว่าได้เข้ามาประเทศไทยได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทั้งคู่รักประเทศไทยมาก มีความฝันที่อยากจะเรียนศิลปะมวยไทย มีคนไทยในจังหวัดภูเก็ต ได้หลอกสองสามีคู่นี้ว่าจะวีซ่ามวยไทยให้ ทั้งคู่ยอมจ่ายเงินไปประมาณ 1 แสนบาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียน จึงไปแจ้งความที่ สภ.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต กับ ตำรวจท่องเที่ยวก็บ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้ง จึงพามาร้องทุกข์กับตนให้ประสานตำรวจกองปราบปรามวันนี้
ล่ามสาวชาวไทย เปิดเผยว่า ทั้งสองคนเป็นชาวต่างชาติ Mr.Vit Musilik อายุ 29 ปี สัญชาติเช็ก และ Ms.Xiao Feng Kang อายุ 26 ปี สัญชาติจีน
คนเช็ก ภรรยาเป็นคนจีน เขาอยากมาเรียนมวยไทย ต่อวีซ่า 1 ปี ได้ไปคุยกับชายชาวจีนคนหนึ่งในภูเก็ต ว่าจะเรียนมวยไทย 1 ปี ต่อวีซ่า 2 คน รวม 1 แสนบาท
ตกลงกันเรียบร้อยจึงให้พลาสปอร์ตไป แต่ไม่ได้มีการสแตมวีซ่าอะไรกลับมาเลย เมื่อเอาพลาสปอร์ตกลับคืนมาทำให้เวลาอยู่ในประเทศไทยเกินกำหนด overstayไป 7 วัน เสียค่าปรับที่อยู่เกิน แล้วรีบออกไปกัวลาลัมเปอร์ พักอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ ขอความช่วยเหลือสถานทูตเช็กที่มาเลเซียช่วยออกวีซ่านักเรียนมาแทน ถึงกลับเข้ามาที่ภูเก็ตใหม่ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย กลับมาภูเก็ตได้ไปแจ้งความที่ตำรวจท่องเที่ยวและ สภ.วิชิต ๆ บ่ายเบี่ยง บอกสองสามีภรรยาที่กำลังท้องได้ 2 เดือน ให้ไปร้องตำรวจท่องเที่ยวๆ บอก
นายวิคเตอร์ สามีชาวเช็ก และ นางวิกกี้ ภรรยาชาวจีน เปิดเผยผ่านล่าม ว่า เหตุเกิดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่จ่ายเงิน 100,000 บาท ให้ชายชาวจีนที่ จ.ภูเก็ตที่เป็นยิมฯ ที่อ้างว่าเป็นของสามีคนไทยของพี่สาวชาวจีนของเขา สำหรับเป็นค่าทำวีซ่านักเรียนมวยไทย ต้องการ วีซ่า Ed Muaythai 12 เดือน+ 3 เดือน รวม 15 เดือน ก่อนจะนำพาสปอร์ตไป แต่ไม่ได้วีซ่าอะไรกลับมาเลย กลายเป็นว่าตอนได้พาสปอร์ตกลับมา ทั้งสองสามีภรรยา อยู่เมืองไทยเกินไปคนละ 7 วันต้องจ่ายค่าปรับโดนดีเลย์จน 30 วันก่อนวีซ่าหมด จนกระทั่ง 2 วันก่อนวีซ่าหมดอายุพยายามต่อวีซ่ามาเรื่อยๆ แต่ไม่มีเกิดขี้นให้มาใหม่ จนอยู่เกิน overstay
จริงๆ คือกระบวนการคือออกจากไทยไปมาเลเซีย 2 วัน แต่ทางคนจีนไม่ได้ส่งเอกสารไม่มีวีซ่า ทั้งสองคนเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตเช็กในกัวลาลัมเปอร์ ติดอยู่จริงๆ 2 อาทิตย์ เสียงานเสียเงินเสียเวลา ไปอีก 20,000-30,000 บาท ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทำเอกสารใหม่ที่สถานทูตเช็กในมาเลเซีย
ทั้งสองสามีภรรยาได้กลับมาไทย จากการช่วยเหลือของสถานทูตเช็ก ได้รับวีซ่านักเรียน 3 เดือน ขาดการติดต่อจากชาวจีนไป 10 วัน จนได้ติดต่ออีกครั้ง มีการพยายามเจรจาขอเงินคืนหรือหาทางต่อวีซ่าให้ได้ครบตามสัญญา 1 ปี แต่ไม่ได้รับอะไรเลย
ตอนนี้เขาจะมาขายวีซ่า DTV 200,000 5 ปี เสนอใส่ 1 ล้านในบัญชีให้ แต่วิคเตอร์และวิกกี้ตั้งใจแค่มาเรียนมวยไทย พร้อมกัน วีซ่าของเก่ายังไม่ได้ ก็มาเสนออันใหม่ให้อีก
ทั้งสองได้ไปตำรวจท่องเที่ยวก่อนส่งไป สภ.วิชิต ไป สภ.วิชิตบอกให้ไปท่องเที่ยว และอยู่ๆได้รับข้อความ 2 นาทีหลังจากถึง สภ.วิชิต ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ ไม่ได้อะไรกลับไปหรอก
มีการข่มขู่ที่สตาร์บัคกับสามีคนไทยคนพี่สาวชาวจีนคนนั้น ต่างๆนาๆ และยังมีการขู่ถ้ายิ่งไม่หยุด จะโดนผลักดันออกนอกประเทศ
เบื้องต้น พงส.กก.5 บก.ป.ได้สอบถามผู้เสียหายสามีภรรยาชาวต่างชาติทั้งสองคน ก่อนประสานไปทาง สภ.วิชิต อำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือทางคดีตามกฎหมายต่อไป