วันอาทิตย์, ตุลาคม 6, 2024
หน้าแรกท้องถิ่นสมาคมคนพิการภาคตะวันออกสนับสนุนการยกห้องเรียนมาหาคนพิการและผู้ดูแลคนพิการจังหวัดชายขอบเพื่อฝึกอาชีพไปทำมาหาเลี้ยงชีพตามโครงการมาตรา 35

Related Posts

สมาคมคนพิการภาคตะวันออกสนับสนุนการยกห้องเรียนมาหาคนพิการและผู้ดูแลคนพิการจังหวัดชายขอบเพื่อฝึกอาชีพไปทำมาหาเลี้ยงชีพตามโครงการมาตรา 35

ดร.ณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออกและอุปนายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าเป็นผู้ผลักดันการฝึกอาชีพของคนพิการด้านการเคลื่อนไหวหรือร่างกายและผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา35 ให้คนพิการมีอาชีพมีรายได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน การฝึกอาชีพให้กับคนพิการอย่างเหมาะสมถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเปลี่ยนผู้พิการที่ถูกมองว่าเป็นภาระ ให้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายของ “มูลนิธิคนพิการภาคตะวันออก” ที่มุ่งเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ผู้พิการมีรายได้ โดยสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ได้ยกห้องเรียนมาหาคนพิการและผู้ดูแลคนพิการเพื่อฝึกอาชีพไปทำมาหาเลี้ยงชีพ ที่จังหวัดชายขอบ คือจังหวัดบุรีรัมย์ การเรียนทำขนมเบเกอรี่ 600 ชั่วโมง อบรมตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.-20 พ.ย.2567 ที่ศูนย์ฝึกอบรมสมาคมคนพิการด้านการเคลื่อนไหวหรือร่างกายบุรีรัมย์ อาคารเอนกประสงค์เทศบาลตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีผู้เข้าอบรม 76 คนในครั้งนี้ โดยระหว่างเรียนการทำขนมนั้นจะได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 328 บาท อาหาร 3 มื้อ อาหารว่าง วัสดุอุปกรณ์ฟรี เรียนจบจะได้รับเตาอบ วัสดุอุปกรณ์ฟรี โดยในการเรียนทำขนมในครั้งนี้ผู้สอนที่ชำนาญการเรียนมาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จนชำนาญจนได้รับใบประกาศมาจากทางมหาลัยที่ไปเรียนมาจึงมาเป็นครูสอนได้เป็นย่างดี

และที่ศูนย์ฝึกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ อาคารเอนกประสงค์หมู่ที่16 ตำบลนาบัว อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มีการสอนหลักสูตรช่างตัดเย็บเสื้อผ้าระดับต้น 600 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 20 พ.ค. ถึงวันที่ 20 พ.ย.2567 โดยมีครูผู้มีความรู้ความสามารถที่มีใบประกาศจากมหาวิทยาลัยของรัฐมาเป็นผู้ฝึกสอน ผู้พิการและผู้ดูและคนพิการที่มาเรียนรู้ตามโครงการมาตรา35 จำนวน 55 คน ซึ่งผู้ที่มาเรียนจนจบจะได้รับจักรเย็บผ้า 1 ตัวพร้อมอุปกรณ์ตัดเย็บ เพื่อนำไปทำอาชีพ ตัดเย็บเสื้อผ้า ซ่อมแซมเสื้อผ้า ในการเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 328 บาท อาหาร3 มื้อ อาหารว่าง วัสดุอุปกรณ์ฟรี

ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุน การดำเนินการฝึกโดยสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาจาก บริษัทปิโตรเลียมไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด

จาก พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. 2550 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2556 ทำให้มีหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงาน และการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรด้านคนพิการคือ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นหน่วยงานในสังกัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่ง พรบ.ฉบับดังกล่าวได้กำหนดไว้ในมาตรา 33 ให้มีการจ้างงานคนพิการทำงานในสถานประกอบการ 100 ต่อ 1 คน โดยสถานประกอบการสามารถลดหย่อนภาษีสองเท่า และการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอํานวยความสะดวก หรือบริการในอาคารสถานที่ ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน มาตรา 34 เป็นการส่งเงินเข้ากองทุนสำหรับนายจ้างไม่ประสงค์จะจ้างงานคนพิการ ส่วนมาตรา 35 นายจ้างหรือสถานประกอบการไม่รับคนพิการเข้าทำงานในมาตรา 33 ไม่ประสงค์ส่งเงินเข้ากองทุนในมาตรา 34 ก็ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการส่งเสริมให้คนพิการได้เข้าถึงเรื่องอาชีพตามมาตรา 35 สถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐนั้นอาจให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ หรือจัดจ้างเหมาช่วงงาน หรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก หรือ ความช่วยเหลืออื่นใด

ดร.ณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออกและอุปนายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ตามโครงการฝึกอบรมตามมาตรา 35 คนพิการ จึงมีโอกาส มีช่องทางในการมีรายได้ ทำให้ไม่เป็นภาระกับครอบครัว คนพิการสามารถติดต่อกับองค์กรคนพิการที่อยู่ในจังหวัดของท่าน สมาคมคนพิการทุกประเภทประจำจังหวัด ถ้าไปหน่วยงานของรัฐ ติดต่อได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ ศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัดนั้นๆ ช่วยให้คำแนะนำให้คำปรึกษาได้ ซึ่งด.ร.ณรงค์ กล่าวต่อว่าโครงการนี้ถ้าห้างร้าน บริษัท หน่วยงาน ต่างๆที่ไม่อยากจ้างแรงงานคนพิการตามมาตรา35 และไม่อยากเสียค่าปรับสามารถจะนำเงินจำนวนนี้ มาให้ทางสมาคมเราฝึกอาชีพคนพิการ โครงการนี้เป็นโครงการที่เป็นทางเลือกทางหนึ่งที่ทำอาชีพและมีงานทำและเป็นแนวทางออกหนึ่งของบริษัทที่สร้างงานคนพิการไม่ได้เพราะว่าคนพิการตามจังหวัดชายขอบ ยังเข้าไม่ถึงโอกาสในการทำงาน ไม่สามารถเข้าไปทำงานตามโรงงานอุตสาหกรรมได้ เพราะทุกคนมีภาระหน้าที่ มีบ้าน มีพ่อแม่ มีลูกต้องดูแล จึงไปทำงานไม่ได้ เพราะฉนั้นโครงการฝึกงานตามมาตรา35 ทางสมาคมผู้พิการภาคตะวันออกจึงต้องยกห้องเรียนไปให้เค้า ให้เค้ามีอาชีพ ทำงานอยู่ที่บ้านได้ สามารถมีอาชีพมีงานทำได้ โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ เป้นแนวทางใหม่เป็นทางเลือกสำหรับบริษัทที่จะช่วยเหลือคนพิการ เป็นการสร้าง CSR ให้กับทางบริษัท เป็นการช่วยเหลือคนพิการได้โดยตรง ถ้าหาก บริษัท ห้างร้านที่ยังจ้างคนพิการไม่ครบตามจำนวน น่าจะลองใช้วิธีนี้เพื่อที่จะทดแทนการจ้างงานคนพิการ สามารถติดต่อได้ที่สมาคมคนพิการภาคตะวันออก โทรศัพท์ 081-6691111 หรือเวปไซด์สมาคมคนพิการภาคตะวันออก www.ead.or.th สามารถติดต่อเราได้ ทางสมาคมเราจะดูแลด้านเอกสารลดขั้นตอนความยุ่งยากทุกขั้นตอน ทางบริษัทไม่ต้องยุ่งยากในเรื่องการทำเอกสารแต่อย่างไร

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts