โดย “ซ้อฝัน” บอกว่า ตนเองยังไม่ได้รับหมายเรียก และเมื่อเข้าพบตำรวจ บก.ปคบ.แล้ว ก็ได้รับแจ้งว่ายังไม่ได้มีการออกหมายเรียกตนเอง แต่ที่ตนเองมาให้ปากคำ ก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตนเองก็อยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะถูกกระสังคมโจมตีอย่างหนัก ว่าตนเองสนิทและเข้าข้าง “แม่ตั๊ก” ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนเองไม่ได้สนิทกับแม่ตั๊ก เพิ่งมารู้จักกันตอนที่ตนเองพาน้องพู่กันและน้องแมงปอมาไลฟ์ และแม่ตั๊กอยากให้น้องทั้ง 2 คนไปร่วมไลฟ์ด้วย เลยติดต่อตนเองมา และได้รู้จักกับแม่ตั๊ก ซึ่งหลังจากพาน้องทั้ง 2 คนไปร่วมไลฟ์กับแม่ตั๊ก แม่ตั๊กก็ได้เลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ 2 ครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการพูดคุยติดต่อพบปะกันเป็นการส่วนตัว
และที่พาน้องทั้ง 2 คนไปร่วมไฟล์ ตนเองก็ไม่ได้เงินค่าจ้างใดๆ และไม่เคยได้รับการว่าจ้างให้ไปไลฟ์ขายสินค้าใดๆ ของแม่ตั๊ก ตนเองมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว และเป็นผลิตภัณฑ์คนละโรงงานกับของแม่ตั๊ก ไม่เคยคิดจะขายสินค้าร่วมกับใคร ไม่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงแม่ตั๊ก และไม่เคยได้รับทรัพย์สินใดๆ จากแม่ตั๊กด้วย ซึ่งทางตำรวจก็ตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองทั้งหมดแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่พบความเชื่อมโยงกัน
แต่ที่มีกระแสว่าตนเองอยู่ข้างแม่ตั๊กนั้น มาจากการที่สังคมโซเชียลมีเดีย ตัดต่อคลิปไลฟ์ตอนที่ตนเองพาน้องแมงปอและพู่กันไปไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก และมีการกล่าวขอบคุณผุ้มีพระคุณของน้องๆ ทั้งสอง และไม่ได้กล่าวเอ่ยชื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอีกท่านหนึ่ง ทำให้แฟนคลับตัดต่อคลิปช่วงที่ตนเองพูดว่าอยู่ข้างแม่ตั๊กมาเชื่อมโยงกับประเด็นทองที่เกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วคำว่าอยู่ข้างแม่ตั๊กของตนเอง หมายถึงเรื่องที่มีคนเข้าไปต่อว่าแม่ตั๊กประเด็นไม่ขอบคุณ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทอง
