เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ต.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จอมพล จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พร้อมด้วย ทนายเจส นายณัฐปกรณ์ สุดชา พาผู้เสียหาย 2 ผัวเมีย Mr.Edwerd Khanda อายุ 65 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ และนางบุณฑริกา คานดา อายุ 45 ปี ผู้เสียหายจาก จ.ภูเก็ต เดินทางเข้าพบ พงส.กก.4 บก.ปคบ.แจ้งความในกรณีที่ผู้เสียหายไปได้ซื้อบ้านพักคอนโดฯ โครงการดัง ซึ่งเจ้าของโครงการเป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต โดยซื้อและจ่ายเงินตั้งแต่ปี 2561 จ่ายเงินจนครบจำนวน 6.4 ล้านบาท จนครบ ระยะเวลาก่อสร้างนานเกินความจริงจนปัจจุบันบ้านที่ซื้อมีสภาพได้แต่เสาบ้าน จึงไปสอบถามเจ้าของโครงการ แต่เจ้าของโครงการบ่ายเบียงตลอดมา และผู้เสียหายยังโดนหลอกในลักษณะคล้ายกันกับอีกโครงการเสียหายอีก 4 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองโครงการเจ้าของเป็นนักการเมืองท้องถิ่นและผู้มีอธิพลในพื้นที่ภูเก็ต ผู้เสียหายเป็นคนธรรมดาและสามีก็นำเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อบ้านเพื่อหวังจะได้อยู่บ้านในช่วงวัยชรา แต่สิ่งที่ได้กับมีแต่เสาบ้าน และตอนนี้ก็ไม่มีการก่อสร้างต่อแต่อย่างใด ผู้เสียหายเคยไปร้องหน่วยงานในภูเก็ตเรื่องก็เงียบ อีกทั้งยังโดนเจ้าของโครงการข่มขู่ท้าทายให้ไปแจ้งความ โดยอ้างว่าตนเส้นใหญ่และโชว์รูปที่ตนถ่ายกับนักการเมืองระดับประเทศหลายคนในท่าทางสนิทสนม ผู้เสียหายเกรงกลัวอธิพล และอยากได้เงินที่จ่ายไปกว่า 10 ล้านคืนมา
สองสามีภรรยา จึงมาขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วยทนายเจส ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ บก.ปคบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
เบืัองต้น พงส.กก.4 บก.ปคบ. ตรวจสอบปากคำและข้อมูลที่ 2 สามีภรรยานำมาแสดง ก่อนให้กลับไปตรวจสอบที่ดินที่มีการก่อสร้างโครงการที่พักดังกล่าวว่าถูกต้องสามารถก่อสร้างได้หรือไม่ เนื่องจากพบว่าที่ดินดังกล่าวสร้างอยู่บนเนินเขา อาจจะเป็นสาเหตุที่เจ้าของโครงการไม่สามารถจะสร้างต่อให้แล้วเสร็จได้ เมื่อได้ข้อมูลเรื่องที่ดินแล้วกลับมาพบ พงส.ปคบ.ใหม่ ถ้าเป็นตามนั้นจะได้ดำเนินคดีเจ้าของโครงการข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป