ทนายตั้ม..พาเหยื่อ “ปริญญ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ เข้าแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี้ บางรายพบก่อเหตุตอนเป็นผู้เยาว์ “เหยื่อแฉพฤติกรรม “สถุน”-“กักขฬะ” สิ้นซาก!!!
เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.65) ที่ สน.ลุมพีนี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ยังคงพาผู้เสียหายรายที่ 2 เข้าแจ้งความกับตำรวจในข้อหากระทำอนาจาร ซึ่งรวมแล้วเป็นผู้เสียหายคนที่ 7 ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ “นายปริญญ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ
โดย นายษทิทรา กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายรายที่ 7 นี้โดนลวนลามบนรถ ทั้งจับมือ แขน และขา พร้อมพูดจาแทะโลมไปในเรื่องเพศ โดยระบุว่าเหตุเกิดเมื่อปี 2562 ช่วงที่เป็นนักศึกษาฝึกงานคล้ายกับผู้เสียหายรายอื่นๆ โดยจะแจ้งความนายปริญญ์ ในข้อหากระทำอนาจารฯ
ส่วนก่อนหน้านี้ผู้เสียหาย คนที่ 6 ที่ถูกข่มขืน เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ ตอนแรกผู้เสียหายรายนี้ตั้งใจจะมาในฐานะพยาน ยื่นหลักฐานเป็นคลิปเสียงและหลักฐานบทสนทนากับนายปริญญ์เท่านั้น จะไม่แจ้งความนายปริญญ์ เนื่องจากมีการรับสิ่งตอบแทนมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่จากการเข้าให้ปากคำ พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ ตำรวจจึงเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายปริญญ์เองตามกฎหมาย
เวลา 17.00 น. ผู้เสียหายคนที่ 9 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เวลา 18.00 น. ผู้เสียหายคนที่ 10 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่รู้จะแจ้งความอย่างไร ที่ไหน ได้ติดตามข่าวเห็นผู้เสียหาย ทนายเริ่มเดินทางมาแจ้งความ ตัวเองที่ถูกกระทำจึงรู้สึกว่าต้องการได้รับการชดเชยสิ่งที่ผ่านมาเพราะหลังเกิดเรื่องรู้สึกอาย และอดทนอยู่อย่างเงียบๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มจากหลังงานบรรยาย นักการเมืองคนดังกล่าวให้รายชื่อติดต่อ และบอกว่ายินดีให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ ตนเองที่สนใจจะทำธุรกิจจึงติดต่อไป เมื่อเดินทางไปถึงห้องทำงานที่เกิดเหตุนักการเมืองคนดังกล่าว พยายามเชิญชวนให้ดื่มแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าจะทำให้การพูดคุยราบรื่น แต่เมื่อตนดื่มสักระยะรู้สึกแปลก แต่ถูกบังคับให้ดื่มต่อจนดื่มหมดแก้วจากนั้นจึงเริ่มถูกลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ จนตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้นและพบว่าตนนอนอยู่ข้างป้อม รปภ. หลังเกิดเหตุการณ์ นักการเมืองคนดังกล่าวโทรมาพูดคุยตามปกติ แต่ตนตัดสินใจไม่รับสายและปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด สุดท้ายนี้อยากฟังไปถึงผู้กระทำให้ขอให้ถูกดำเนินคดีถึงที่สุด ชดใช้กรรมในคุก ส่วนตัวรู้สึกขยะแขยงทุกครั้งที่เห็นชายคนดังกล่าวทำหน้าที่วิทยากร โดยเหตุการ์ณเกิดตั้งแต่ ปี พ.ศ.2559
เวลา 18.20 น. ผู้เสียหายคนที่ 11 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รู้จักกับนักการเมืองดังกล่าว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 เหตุเกิดปี พ.ศ.2557 โดยถูกล่อลวงไปที่พักเพราะชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นสำนักงาน ตนยืนยันว่าจะเจอที่สาธารณะ แต่ชายคนดังกล่าวยืนยันว่าต้องกลับไปเอาของ เมื่อผู้เสียหายตามไปจึงพบว่าเป็นห้องนอน นักการเมืองปิดประตูห้องและเริ่มลวนลามขณะนั้น ตัวเองอ้างเหตุผลทุกอย่าง และพยายามขัดชืน แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายเมื่อถูกข่มขื่นสำเร็จ ตนบอกว่าจะแจ้งความ แต่นักการเมืองรายนี้บอกว่า ใครจะช่วยใคร จะเชื่อและรู้ไหมว่าพ่อตนเป็นใคร
ยืนยันว่าผู้เสียหายทุกคนไม่รู้จักกันมาก่อนแต่พูดตรงกัน หลังเกิดเหตุรู้สึกด้อยค่าตนเองแต่วันนี้รู้สึกปลดล็อคความรู้สึก ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องป่วยเป็นซึมเศร้า แต่ตัวเองไม่แปลกใจที่ผู้ก่อเหตุจะปฎิเสธ
เวลา 18.40 น. ผู้เสียหายคนที่ 12 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เวลา 18.50 น. ผู้เสียหายคนที่ 13 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เวลา 18.55 น. ผู้เสียหายคนที่ 14 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน