สาวขายน้ำเต้าหู้ผวาหนัก เฒ่าวัยดึกอ้างเป็นตำรวจบอกรักจับมือนานร่วม 2 ปี ควงสามีโร่แจ้งจับ หวั่นไม่ปลอดภัยได้รับอันตราย ล่าสุดเดินมาวนเวียนอยู่แถวหน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของตน แล้วเข้ามาบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นท่านผู้การได้ด่าว่าตนแล้วจากนั้นได้เดินหนีไป
จากกรณีชายสูงวัยอ้างเป็นตำรวจ มีพฤติกรรมเข้ามาบอกรัก น.ส.วริยา ประคองใจ อายุ 37 ปี หรือน้องอ้อม เจ้าของร้านขายน้ำเต้าหู้อยู่ที่ตลาดสดเทศบาล 3 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมถือโอกาสจับมือในช่วงที่มีการทอนเงินจากการซื้อน้ำเต้าหู้ เป็นลักษณะนี้มานานร่วม 2 ปีแล้ว โดยล่าสุดมาก่อเหตุบอกรักต่อหน้าสามี น.ส.วริยา ทำให้มีปากเสียงกัน จึงได้ถ่ายคลิปโพสต์ในโลกโซเชียล จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ น.ส.วริยา หรือน้องอ้อม พร้อมด้วย นายณรงค์ แพทย์ราช อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นสามี ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.บุญธรรม ฝั่งสระ รอง ผกก.สอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ที่มาก่อเหตุสร้างความรำคาญและลวนลามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พ.ต.ท.บุญธรรม ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.ภูวเดช สาระบัญญัติ รอง สว.(สอบสวน) รับแจ้งความไว้และทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุต่อไป
น.ส.วริยา หรือน้องอ้อม กล่าวว่า หลังจากที่ได้โพสต์เหตุการณ์ที่ชายสูงวัยคนดังกล่าวเข้ามาลวนลามสร้างความรำคาญลงในโซเชียล รวมทั้งได้มีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวนก่อนหน้าแล้ว ปรากฏว่าช่วงเช้าของวันนี้ เวลาประมาณ 06.00 น. ชายสูงวัยคนดังกล่าวก็ได้เดินมาวนเวียนอยู่แถวหน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของตน แล้วเข้ามาบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นท่านผู้การ ได้ด่าว่าตนแล้ว จากนั้นได้เดินหนีไป โดยก่อนหน้านี้ชายสูงวัยจะมาหาตนเดินวนเวียนแถวหน้าร้านบอกรักตน ทั้งเช้าและเย็น และตามไปถึงบ้านของตนที่มีแม่และเด็กอยู่ในบ้านด้วย ทำให้ตนเกิดความหวาดกลัวมาก เกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งมักจะเข้ามาลวนลามแอบจับมือตอนช่วงทอนเงินค่าน้ำเต้าหู้ให้เป็นประจำ ตนจึงได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับชายสูงวัยดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนโดยมอบให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุใด และจะได้ติดตามจับกุมตัวชายสูงวัยดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายได้นำภาพหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าไปตรวจสอบดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณใกล้เคียงอย่างเต็มที่อีกด้วย