ตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท.รรท.ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ
เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.2 ได้ดำเนินการติดตามพฤติกรรมกลุ่มสื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยการตรวจสอบกลุ่มสาธารณะในแอปพลิเคชันวีเค (VK) มีสมาชิกกว่า 1.5 แสนคน พบว่ามีการนำภาพและคลิปวีดิโอลามกอนาจารต่างๆ มาโพสต์เป็นสาธารณะ รวมทั้งมีการเชิญชวนให้สมัครเข้ากลุ่มในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม (Telegram) เพื่อเข้าดูภาพและคลิปวีดิโอลามกอนาจารเพิ่มเติม โดยเก็บมีค่าบริการ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการทดลองสมัครเข้ากลุ่ม VIP ในแอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) เพื่อเข้าดูภาพและคลิปวีดิโอลามกอนาจารเพิ่มเติม โดยได้รับข้อความแจ้งจากกลุ่มสาธารณะดังกล่าวว่า มีค่าสมัคร 300 บาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 จึงสั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ทำการสืบสวนหาข่าว จนพบเบาะแสบุคคลตามหมายจับในกรณีดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี
กระทั่งวันที่ 7 พ.ย.67 พ.ต.ต.กิตติเดช สมวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้จับกุม นางจันทร์จิรา อายุ 57 ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4082/2567 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2567 โดยจับกุมได้ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ถ.วิภาวดี ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี ในความผิดฐาน “ร่วมกัน มีไว้ ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพยนตร์แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามกเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์มีลักษณะอันลามกฯ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.2 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป