ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายปวิชญา หรือ ครู NEWtsbs ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายจับ 3 หมายจับ ประกอบด้วย
1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
2) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”
ซึ่งมีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลบเชื่อตกเป็นเหยื่อ
ผู้บังคับบัญชาจึงมอบหมายให้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบเร่งติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ซึ่งได้รับมอบหมายให้รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.เอกภพ พันธุ , ร.ต.อ.นุรุต ฐิติชรัล , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายปวิชญา อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ”
โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนหน้าคอนโด ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่งชื่อ “ NEWtsbs ” โดยเปิดสอนอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาดทำให้ธุรกิจโรงเรียนติวของตนซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหายซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตนและผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ในส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้นสามารถสอบข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) นั้น เดิมทีตนสามารถช่วยได้โดยตนมีแนวข้อสอบซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างการเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลชุดจับกุมช่วยเหลือตนโดยการเสนอที่จะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต คงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดีงกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลว่า นายปวิชญา หรือ “ ครู NEWtsbs ” มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี
2) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายปวิชญา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ