วานนี้ วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต มอบหมายให้ พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านการคุ้มครองพยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ นำโดยพ.ต.ท.สรยุทธ จิโรภาส รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.9/2567 ลงวันที่ 26 เมษายน 2567 ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย”
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 ขณะที่ผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งเป็นเภสัชกร โรงพยาบาลชลบุรี ได้แอบลักยาในห้องจ่ายยาในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรจ่ายยาให้กับผู้ป่วยนอกเวลาราชการ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 64,458 บาท ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด แต่ผู้ต้องหาไม่ไปพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลตามกำหนดนัด พนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อนำตัวผู้ต้องหาฟ้องคดีต่อศาล
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. พบว่าผู้ต้องหาได้ไปทำงานอยู่ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง ย่านอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ และทำการเข้าจับกุมเพื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด“
“ความผิดดังกล่าวเกิดจากการกระทำส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด”