สืบเนื่องจากประมาณปี 2565 ผู้ต้องหา (นายสุทธิชัยฯ) ได้ชักชวนบุคคลที่ตนสนิท มาร่วมลงทุนนำเข้ากุ้งล็อบสเตอร์ เพื่อมาขายเอากำไร โดยอ้างกับผู้เสียหายว่า ตนมีความสนิทสนมกับซัพพลายเออร์นำเข้าอาหารทะเลสดๆ ราคาถูก และได้ชักชวนวางแผนทำธุรกิจเป็นมั่นเป็นเหมาะ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและร่วมลงทุน
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ต้องหาได้มาปรึกษากับผู้ลงทุนว่า ขณะนี้ค่านำเข้าสินค้าและค่าขนส่งต่างๆได้เพิ่มขึ้น และมีความล่าช้าในการส่งสินค้า ทำให้สินค้ายังไม่มาตามกำหนด แต่ทางซัพพลายเออร์แจ้งว่า ของกำลังจะขาดตลาดอีกนาน และยังเหลือกุ้งล็อบสเตอร์อีกจำนวนนึง อยากให้ช่วยเพิ่มออเดอร์สั่งซื้อ ราคาจะถูกกว่า จึงต้องมีการระดมทุนเพื่อซื้อกุ้งเพิ่ม สุดท้ายโอนเงินไปลงทุน 400,000 กว่าบาท แต่จนแล้วจนรอด กุ้งสักตัวก็ยังไม่เคยเห็น จึงตัดสินเอาความให้ถึงที่สุด
สุดท้ายเกิดเรื่องคดีความก็นัดไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายที่ถูกฉ้อโกงไป ผู้ต้องหาก็สัญญาจะทยอยใช้เงินคืนให้ แล้วก็เงียบหาย ติดต่อไม่ได้ มิหนำซ้ำ หายตัวไม่ไปตามที่ศาลนัดหนีเข้ากลีบเมฆ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลแขวงธนบุรี ได้ประสานมายังตำรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.4 ให้ช่วยติดตามตัว นายสุทธิชัย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลแขวงธนบุรี ในข้อหาฉ้อโกง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สืบสวนหาตัวผู้ต้องหาตามที่ได้รับการประสานมา
ต่อมา พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.2 บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถรวบตัวนายสุทธิชัยได้ที่บริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ภายหลังการจับกุมตัว ได้ตรวจสอบประวัติ นายสุทธิชัยฯ พบมีหมายจับอีก 4 หมายรวมเป็น 5 หมายจับ เจ้าตัวตัดพ้อ ก็พยายามใช้หนี้แล้วแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่เห็นติดตามทวงถาม จึงนิ่งนอนใจ ทุกวันนี้ก็ทำงานพอประคองตัวไปวันวัน เจ้าหนี้ตามก็ไม่ได้คิดจะบ่ายเบี่ยง ตอนนี้ยอดทะลุ 2 ล้านไปแล้ว