ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน

เลื่อนตรวจหลักฐาน ธนิกานต์ คดีฝ่าฝืนจริยธรรมปมเสียบบัตรแทนกัน รอผลคดีอาญา นัดใหม่ 16 ส.ค.นี้ เจ้าตัวเผย ไม่เทียบคดีปารีณา ข้อเท็จจริงคนละกรณี

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2565 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลนัดตรวจหลักฐาน  คดี คมจ.2/2564 ที่ ป.ป.ช. ยื่นร้อง น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ ร.10 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27

วันนี้ น.ส.ธนิกานต์ เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ โดย ธนิกานต์ ยื่นคำร้องขอแต่งตั้งทนายใหม่ เนื่องจากทนายคนเดิมขอถอนตัว ซึ่งศาลอนุญาต

ต่อมาศาลอ่านกระบวนการพิจารณาให้คู่ความฟังว่า กรณีนี้ยังเป็นคดีอาญาที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำ อม.19/2564 ของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพฤติการณ์ของคดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีที่ ป.ป.ช.ร้องต่อศาลฎีกา และมีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน โดยคดีอาญา ของศาลฎีกาฯ ได้นัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 26 พ.ค.นี้ และเริ่มไต่สวนพยานครั้งแรกวันที่ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันให้รอผลคำพิพากษาคดีอาญาให้เสร็จสิ้นก่อน ศาลฎีกาจึงให้นัดพร้อมเพื่อฟังความคืบหน้าคดีนี้ใหม่ในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 9.30 น.

ด้าน น.ส.ธนิกานต์ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปฟังศาลว่า พยานฝั่งตนเองมีไม่มากคาดว่า 2-3 วันก็น่าจะไต่สวนเสร็จสิ้น ส่วนการมาในวันนี้เป็นการมารายงานตัวและรายงานความคืบหน้าคดีอาญาต่อศาล ซึ่งตนได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตามกระบวนการที่ศาลนัด โดยศาลให้เวลาและทำการนัดมา ตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนการรอ หากนัดได้เร็วความยุติธรรมก็จะไม่ล่าช้า

เมื่อถามว่า มองบทลงโทษทางคดีจริยธรรมของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กับคดีของตนเองอย่างไร น.ส.ธนิกานต์ มองว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหม่มาก ด้วยผลพวงของรัฐธรรมนูญ 60 แต่เนื้อความคนละเรื่อง คนละกระบวนการกัน ฉะนั้นก็ต้องต่อสู้อย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็ไม่ได้เปรียบเทียบกับคดีของน.ส.ปารีณา เพราะคนละกรณีกัน แต่การมีคดีความก็มีความกังวลอยู่แล้ว เพราะประชาชนอาจจะคิดว่ากระทำผิดจริงตัดสินไปแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย

ทั้งนี้ หากมีการเลือกตั้งใหม่เร็วๆ นี้ สิทธิ์การลงสมัครไม่ได้หมดไป เพราะคดีนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสิทธิ์ในการเป็น ส.ส.ยังอยู่ครบถ้วน เพียงแต่ว่ามีผู้ร้องร้องเข้ามาก็ต้องนำเข้ากระบวนการที่ถูกต้อง มีข้อเดียวที่ทำไม่ได้คือการถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ ที่ไม่สามารถกดลงมติได้ เพราะถ้าหากกดลงมติแล้วสุดท้ายคดีนี้แพ้ จะทำให้กฎหมายในสภานั้นเป็นโมฆะ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากให้คดีจบให้เร็วที่สุด เพราะกระบวนการที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรม แต่ศาลก็ให้ความเมตตาที่นัดมาทุกเดือน