สิ่งเสพติด…ของ “ตำรวจ-นักข่าว”
พูดถึง “ตำรวจ” กับ “การเมือง” และ “นักข่าว” สายอาชญากรรม รุ่นผมเป็นนักข่าว แทบไม่ได้ยิน คำนินทาว่าร้ายในเรื่องเสียหายมากมายนัก!!
เท่าที่พอจำได้ ในหลายเรื่องราว ที่เกี่ยวกับงานในหน้าทีตำรวจ ในตำแหน่งผู้นำ ระดับ อ.ตร….
นับตั้งแต่ท่าน พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์ พล .ต.อ.มนต์ชัย พันธ์คงชื่น ต่อเนื่องกันมาถึง พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์…
กับอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม…โตเต้าขึ้นมาจากผลงานราชการ ตามลำดับอาวุโส และความรู้ ความสามารถ ทุกท่านก็ว่าได้
ทั้งภูธรและนครบาล…กว่าจะขึ้นมาถึงตำแหน่งระดับ “ผู้บัญชาการ” ต่างมีผลงานประดับเกียรติ์ติดตัวกัน…ทั้งนั้น!!
ยกตัวอย่าง…”สิงห์อีสาน” พล.ต.อ.บุญทิน วงค์รักมิตร มือปราบชื่อดัง ก็ดังด้วยผลงาน ที่ประชาชนยอมรับ
กระทั่งถึงยุค พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พล .ต.อ.เสรี เตมียเวส ก็โตขึ้นมาจากผลงาน ที่พี่น้องชาวอีสาน มองเห็นกันมาและชื่นชมจากใจจริง
แต่…ในที่สุดก็มาถึงยุค “การเมือง” เข้ามาครอบหัว ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในตัวตนและการดิ้นรนเอาตัวรอด
ตำรวจที่โตตามมา จึงต้องเปลี่ยนอุดมการณ์เดิมๆ ที่รุ่นพี่ๆนำทางไว้ หันไปเกาะขายืนข้าง “การเมือง” ชัดเจนขึ้น!!
จนถึงยุคตัวเงินตัวทอง เป็นอำนาจเหนือกว่าความสามารถ ที่ประชาชนยอมรับ
“ตำรวจของประชาชน” จึงหลุดโผ หายไปจากความทรงจำ ที่ชาวบ้านรู้จัก คุ้นเคยกันมา
ผมต้องบอกไว้ตรงนี้ว่า…นั่นคือความทรงจำของอดีตนักข่าวสายอาชญากรรม รุ่นโบราณ
ที่พวกเรานักข่าวสายตำรวจ…เข้าถึง และเข้าใจตรงกัน ในหน้าที่ต่างกัน
หลังจากนั้นเป็นต้นมา…ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทั้ง “ตำรวจ” และ “นักข่าว” สายข่าวอาชญากรรม
ที่ ตำรวจ เขาเข้ามา “จัดระเบียบข่าว” ให้นักข่าวในสำนักงานตำรวจจัดให้ นำเสนอตรงกัน
เบื้องหน้าเบื้องหลัง…ของข่าวที่เกิดขึ้น หรือ ข้อเท็จจริง ที่ประชาชนมองไม่ถึง ก็เลยมืดสนิทไปด้วย!!
คนรุ่นเก่าอย่างพวกเรา ที่เคยได้ข้อมูลตรงไปตรงมา…ก็พลอยถูกปิดหูปิดตาไปด้วย ในยุคใหม่
ด้วยเหตุผลบางอย่างตรงนี้..คือที่มาของเนื้อหา เกี่ยวข้องกับตำรวจยุคนี้ จึงหันไป “รับใช้” ใคร ในทางมิชอบได้ ในบางบริบทของข่าว
ทุกคนอยากเห็น ผลงาน “ตำรวจของประชาชน” อย่างแท้จริง เช่น คนในเครื่องแบบ สีกากี ในอดีต ก็หายไป
เพราะปัจจุบัน…ทั้งคนทำข่าวและคนทำหน้าที่ตรงนี้ ไปเสพติด “อำนาจเงิน” มากไปหรือเปล่า??.