วันศุกร์, เมษายน 18, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สุรชา บุญเปี่ยมแก้กฎหมายประมง หายนะท้องทะเลไทย ?

แก้กฎหมายประมง หายนะท้องทะเลไทย ?

ใครที่ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อช่วงใกล้สิ้นปี 2567 เป็นประเด็นต่อเนื่องมาถึงต้นปีนี้ คงได้เห็นการถกเถียงเรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นกฎหมายประมงที่ออกมาในสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประเด็นสำคัญตามร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฯ มาตรา 23 คือการแก้ไขมาตรา 69 ในพระราชกำหนดการทำประมงที่บัญญัติว่า “ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมืออวนล้อม ที่มีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตรทำการประมงในเวลากลางคืน” โดยให้ยกเลิก และให้ใช้ตามที่บัญญัติใหม่ในร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฯ ว่า “ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมืออวนล้อม ที่มีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตรทำการประมงในเขตสิบสองไมล์ทะเลนับจากแนวทะเลชายฝั่งในเวลากลางคืน

การทำการประมงนอกเขตสิบสองไมล์ทะเลตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข พื้นที่ ตามที่รัฐมนตรีมีประกาศกำหนด ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวต้องกำหนดในเรื่องการใช้แสงไฟล่อไว้ด้วย”

หมายความว่า มาตรา 69 ที่แก้ไขเพิ่มเติม อวนที่มีตาเล็กกว่า 2.5 ซม.ที่เรียกกันว่าอวนตาถี่หรืออวนตามุ้ง สามารถใช้ทำประมงในเวลาอื่นได้ และสามารถทำได้นอกเขต 12 ไมล์ทะเลนับจากชายฝั่ง

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบ 239 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 383 คน ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นการพิจารณาวาระ 1 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรับหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ด้วยเสียง 165 เสียง และมีการตั้งกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษา 21 คน ก่อนพิจารณาต่อไป

การพิจารณาแก้ไขพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 โดยเฉพาะมาตรา 69 มีผู้คัดค้านไม่เห็นด้วยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้านติดชายฝั่งทะเล 22 จังหวัด ภาคประชาสังคม มีการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้หลายประเด็น ประเด็นหลักคือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 69 โดยให้เหตุผลสรุปได้ว่า การทำการประมงด้วยอวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรในเวลากลางคืนทุกพื้นที่ในทะเล (รวมถึงพื้นที่นอกแนวทะเลชายฝั่ง 12 ไมล์ทะเล )ในทางปฏิบัติของการทำประมงในเวลากลางคืน ต้องใช้วิธีจับปลาประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าปั่นไฟล่อสัตว์น้ำ การทำประมงด้วยช่องตาอวนถี่ซึ่งโดยทั่วไปใช้จับปลาขนาดเล็กมากคือปลากะตัก จะติดลูกปลาซึ่งเป็นสัตว์น้ำวัยอ่อนเข้ามาด้วย จึงเป็นการประมงที่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำ เพราะสัตว์น้ำวัยอ่อนถูกทำลายก่อนวจะเติบโตเต็มที่เป็นการทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ

เหตุผลของกลุ่มผู้คัดค้านการแก้ไขกฎหมายประมงฉบับเดิมคือพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 เครือข่ายประมงพื้นบ้าน สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อม ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อวุฒิสภาไปแล้ว โดยเรียกร้องให้พิจารณาหลายข้อ ข้อสำคัญคือเรียกร้องให้ยกเลิกการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 69 ให้กลับไปใช้บทบัญญัติที่ตราไว้เดิม ความว่า “ห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน”

ในอีกแง่มุมหนึ่ง พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ที่บังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน เป็นกฎหมายที่ออกมาในสมัย คสช. ซึ่งรัฐบาลจากคณะรัฐประหารในเวลานั้นให้เหตุผลว่าต้องการจะแก้ไขปัญหาการประมงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (IUU Fishing) พรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเห็นว่าเป็นการออกกฎหมายฉบับนี้อย่างเร่งรีบและขาดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงมีการเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการแก้กฎหมายประมง ซึ่งมีการถกเถียงกันทั้งในสภาและนอกสภา ประเด็นที่พูดถึงกันมากก็คือมาตราที่ 69 ตามพระราชกำหนดการประมง ซึ่งฝ่ายคัดค้านเห็นว่า ถ้าแก้ไขมาตรานี้ก็จะทำให้ท้องทะเลไทยจะมีสภาพถึงขั้นหายนะ เพราะจะทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนถูกทำลาย ไม่อยู่รอดเติบโตเป็นทรัพยากรทางทะเลต่อไปได้

ต้องติดตามกันต่อว่าวุฒิสภาจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ในวาระต่อไปและมีมติออกมาอย่างไร ซึ่งจะรู้ผลในอีกไม่นานนี้

สุรชา บุญเปี่ยม / รายงาน

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

ความตาย…ที่ถูกมองข้าม!!

https://youtu.be/eRB4GpU3V4Q ความตาย…ที่ถูกมองข้าม!! สังคมไทย…ปัจจุบันถูกบ่มเพาะไว้กับ ความบันเทิง นอกลู่นอกทาง สนุกกันทั่วไทย มากไปหรือไม่?? ที่ถูกนำไปร้อยเรียงรวมไว้กับ วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิม เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวไทย เป็นความภาคภูมิใจ ในแนวนโยบายขายวัฒนธรรม เป็นสินค้านอกรีดข้างถนน!! รัฐบาลและนักธุรกิจ คิดด้านผลประโยชน์…มันคุ้มค่ากับ ความเสื่อมเสียที่ตามมาหรือไม่?? ที่เห็นตัวเลขรายได้สูงขึ้น จากนักท่องเที่ยวแนวสนุกสนาน เพียงข้ามวันข้ามคืน…คุ้มมั้ย?? พวกเราก็ตื่นเต้นกันไป…จนลืมนึกถึงผลกระทบด้านอื่นๆตามมา ก็ได้แต่นั่งเสียใจทีหลัง กับสินค้าขายดีกลางถนนสาธารณะเหล่านั้น ทุกเทศกาลงานประเพณีพื้นบ้านไทย ที่มุ่งเน้นถึงความหลากหลายในสังคมพื้นบ้าน ค่อยๆหายไป…แทบไม่หลงเหลือให้เห็น เพราะต่างเน้นเรื่อง…ธุรกิจท่องเที่ยวสนุกสนานบันเทิงเริงรมย์ เต้นแร้งเต้นกาตามท้องถนน ด้านเดียว!! ในที่สุด…เราก็รู้ เราก็เห็น ตัวเลขความสูญเสีย มากมายขนาดไหน?? ตาย-เจ็บ คาถนน แน่นอยู่ตามโรงพยาบาล นับร้อย…นับพัน!! ทุกปีของวันปีใหม่…วันสงกรานต์ ต้อง มานั่งนับศพ 7 วันอันตราย ซ้ำซาก ความรู้สึกที่ต่างกัน…พวกปิดถนนทำธุกิจ หน้าบานเป็นกะด้ง และรัฐบาลมองข้ามศพนับร้อย เป็นความสำเร็จ กับ…น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ของคนที่เหลืออยู่ข้างหลัง ในวันมงคลชีวิต มีใครพูดถึง…ผลประโยชน์ที่ได้ กับความสูญเสีย นับร้อยนับพันชีวิต ตายและเจ็บ ในทุกปี มีทางไหนพอที่จะหยุดความตายและเจ็บ...

กรรมที่ต้อง…ชดใช้ในชาตินี้

https://www.tiktok.com/@suebjarkkhao/video/7494136363500047632 กรรมที่ต้อง…ชดใช้ในชาตินี้ สงกรานต์…วันหยุดสุดท้ายของปี 2568 ผ่านพ้นไป ด้วยความสนุกสานทั่วหน้า กับ…ความทุกข์ในหลายครอบครัว จากอุบัติเหตุ ที่สูญเสียไปก็มากมาย เหมือนทุกปี ต่างกรรมต่างวาระ…ปี พ.ศ.2516 สงกรานต์กลางป่า ทุ่งใหญ่นเรศรวร สัตว์ป่า ถูกไล่ล่าฆ่าเอาเนื้อ และเขาของกวางอายุยืนยาวนาน มาเป็นเครื่องประดับบารมี ฆ่าพวกเขาอย่างเลือดเย็น แล้วขนขึ้น ฮ .ทางราชการ ไปร่วงลงที่อำเภอบางเลน นครปฐม เมื่อ 52 ปี ผ่านไป…ตรงกับวันนี้เช่นกัน คนไทยในยุคนั้น…ต่างรับรู้และร่วมสาปแช่ง หลังจากสื่อนำเสนอข่าว ดังไปทั้งโลก ใช่ครับ…ภาพ ฮ.ลำที่ผมถ่ายถาพไว้ ขณะบินขึ้นจากแคมป์นักล่าสัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศรวร…ลำเดียวกันครับ!! ที่มี ข้าราชการ พ่อค้า นักแสดง ร่วมสร้างกรรมไว้ที่นั่น รวมทีมทำชั่วไว้ มันจำนนต่อหลักฐาน ผมและคณะ ที่บุกป่าเข้าไปหาความจริง…ก็ยังต้องอยู่กับข่าว จนกว่าจะจบภารกิจสำคัญในชีวิต "อาชีพสื่อ" ที่พวกเรายุคนั้น บอกกับตัวเองตลอดมา "เหมือนเดินบนเส้นด้ายเปื่อยๆ…กลางอากาศ" แต่ก็ไม่หวั่นไม่หวาดรักษาเอกราชเสรี…"ร่มไม้ใบหญ้าเราก็กล้านอน" อะไรทำนองนั้น!! ผมเร่งรีบนำหลักฐานสำคัญ...

กรรมตามทัน!! ฮ.ขนสัตว์ป่าตก!!

https://youtu.be/OH34Jxij9I4 กรรมตามทัน!! ฮ.ขนสัตว์ป่าตก!! ผมไม่แค่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ กับความหมายคำโบราณที่ว่า ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตมาพูดซ้ำอีก…เพียงเท่านั้นนะ!! หลายบทพื้นที่ป่า "ทุ่งใหญนเรศวร" คือบ้านหลังใหญ่ในป่าลึก เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด…มาแต่ดึกดำบรรพ์ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ…ใช้อาวุธทันสมัย ไปไล่ล่าฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ในป่าลึกแห่งนั้น คือความจำที่ไม่ควรลืม…สำหรับคนที่รู้เห็นมากับตา พร้อมหลักฐาน บ่งบอกให้เรา…ต้องจำไปอีกนานแสนนาน ระบบความป่าเถื่อน ที่ชั่วร้ายเกินกว่าสัตว์ มาจาก "ดงนรก" หน่วยงานรัฐ ที่มีพวกเจ้ายศเจ้าอย่าง… ต่อยอด สร้างกรรม ได้ทุกเรื่อง ตามที่พวกเขาต้องการ…อำนาจเถื่อนเหล่านี้ ไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน ก็ต้องหันมารื้อฝอย…ย้อยรอยให้ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ต่อไป ออกจากป่า บ้านหลังใหญ่ของสัตว์…พวกเราเร่งทำเวลา ออก ไปให้พ้นดงนรกป่าเถื่อนตรงนั้น ผ่าน ห้วย-เหว-ลำธาร และกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาตลอดทาง "กลิ่นเหน่าจากซากสัตว์…พวกกวางป่า ที่มีเขาสวยงาม มันตัดเอาเฉพาะแค่คอ เพื่อเอาเขากวางที่งดงาม และลำขาหน้า-หลัง เท่านั้น" พี่ป่าไม้บอกกับเรา…ระหว่างแวะริมลำธาร ตรงไปยังต้นไม้ ที่มีก้านธูปปักอยู่ข้างๆมากมาย "ต้นตะเคียนเลือด ไม้ป่าหายาก…ที่คนผ่านไปผ่านมา ต้องแวะลงไปบนบานสานกล่าว ขอให้เดินทางปลอดภัย…" งั้น…ช่วยบอกท่านด้วย มีคนล่าสัตว์ป่า...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.