กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.รรท.ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ธีรเดช อรุณนพรัตน์, ร.ต.อ.ณัฐฐาพร สนธิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายรงค์พงศกรฯ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับดังนี้
- หมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ จ.97/2566 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนฯ”
- หมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ จ.24/2567 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณอาคารจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากประมาณปลายปี พ.ศ.2564 นายรงค์พงศกรฯ ได้แอบอ้างเป็นนายหน้าของนายทุนชาวจีนเจ้าของที่ดิน จำนวน 773 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และได้หลอกลวงแบ่งเป็นแปลงขายที่ดินดังกล่าว โดยมีนายธานินทร์ฯ เป็นผู้ลงประกาศขายที่ดินผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น TikTok, Facebook และ Line จนมีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก หวังจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิต ต่อมาเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2565 กลุ่มผู้เสียหายที่ได้หลงเชื่อซื้อที่ดินดังกล่าว ไม่สามารถขอบ้านเลขที่เพื่อขอสาธารณูปโภค และยังถูกเจ้าของที่ดินแจ้งความในข้อหาบุกรุก จึงได้ทราบว่าถูกหลอกลวง กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 89 รายจึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เพนียด จ.ลพบุรี ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เพนียด จว.ลพบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดลพบุรี
ออกหมายจับไว้จำนวน 2 ราย คือ นายธานินทร์ฯ และ นายรงค์พงศกรฯ ซึ่งต่อได้มีการจับกุมตัวนายธานินทร์ฯ ได้ ส่วนนายรงค์พงศกรฯ หลบหนี จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่านายรงค์พงศกรฯ มีประวัติถูกดำเนินคดีจำนวนหลายคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าหลังก่อเหตุ นายรงค์พงศกรฯ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หลบหนีไปในหลายจังหวัดทั้งจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดกาญจนบุรี และ จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีลงมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ เข้าจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เพนียด จว.ลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย “การซื้อขายที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ จะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น”