วันที่ 4 ก.พ.68 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. รรท.ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสงรอง ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปคบ. นำโดย ปฏิบัติ พ.ต.ท.จำรูญ คำมา สว.กก.2 บก.ปคบ., ด.ต.เดชวิชญ์ ศรีละโคตร,ด.ต.สายันต์ วิเชียรเทียบ,ด.ต.สายัณห์ นายะคุปต์,ด.ต.อนันต์ ม้านสะอาด,ด.ต.ต่วนอูเซ็น ต่วนจาหลง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปคบ.
พฤติการณ์แห่งคดี ด้วย กก.2 บก.ปคบ. กก.2 บก.ปคบ.ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีการลักลอบนำวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 (คลอร์ไพริฟอส) ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายที่ห้ามมีไว้ในการครอบครอง นำเข้า นำผ่าน ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
ต่อมา เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าวจึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวและเฝ้าซุ่มดู พบนายธณกรฯ แสดงตนเป็นเจ้าของสถานที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างขายสารกำจัดแมลง ชื่อการค้าคลอร์ไพริฟอสให้กับลูกค้า เจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าว จึงได้แสดงตน พร้อมแสดงบัตร และได้แสดงความบริสุทธิ์ใจทั้งได้ให้ นายธณกรฯ ดูจนเป็นที่พอใจ และจึงได้เข้าตรวจสอบสถานที่เก็บสินค้าดังกล่าว
ผลการตรวจสอบพบ
1.ผลิตภัณฑ์สารกำจัดแมลง(คลอร์ไพริฟอส)ต้องสงสัยเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4 จำนวน 2 รายการ
2.วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จำนวน 7 รายการ
มูลค่าของกลาง 308,000 บาท
ซึ่งของกลางที่ตรวจพบเชื่อได้ว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จึงได้ตรวจยึด/อายัด และ เก็บตัวอย่างของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายดังนี้
1.มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (คลอร์ไพริฟอส) โดยผิดกฎหมาย มาตรา 18(4) , 43,74 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ขึ้นทะเบียน ตามมาตรา 18(3) ,45(4)อัตราโทษ ตามมาตรา 78 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 18(3) , 23 , 73 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าวจะได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พงส.กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่สอบสวนถึงตามกฎหมายต่อไป
ปคบ.เตือนภัย เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่ามีการนำวัตถุอันตรายเคมีทางการเกษตร ปุ๋ย มาขายผ่านสื่อออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบแพลตฟอร์มต่างๆบนสื่อออนไลน์พบว่ามีการลักลอบนำผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายทางการเกษตรที่ไม่มีทะเบียนวัตถุอันตราย มาขายผ่านสื่อออนไลน์ ไม่มีฉลาก เอกสาร คำแนะนำ ในการใช้ที่ถูกต้อง ผู้ใช้ไม่สามารถใช้วัตถุอันตรายได้ในอัตราที่เหมาะสม สิ้นเปลือง ซึ่งหากผู้บริโภคนำวัตถุอันตรายที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมาใช้อาจก่อให้เกิดผลเสียหาย หรือนำมาใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม พืช สัตว์ หรือแม้กระทั่งต่อผู้ใช้เอง อาจทำให้อาจเกิดการตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ถ้าผู้บริโภคพบการกระทำความผิดโดยการนำวัตถุอันตรายชนิดที่๔ วัตถุอันตรายที่มีความเป็นอันตรายหรือความเสี่ยงสูงทั้งจากคุณสมบัติของตัวสารเองหรือจากลักษณะการใช้ เช่น สารก่อมะเร็งสารก่อกลายพันธุ์ สารที่เป็นพิษต่อระบบสืบพันธ์หรือสารที่ห้ามใช้โดยอนุสัญญากฎหมาย จึงห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครอง นโยบายของผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้สืบสวนกวดขันจับกุม ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ที่นำผลิตภัณฑ์สินค้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มาขายผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.๒๕๓๕ ความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อย่างเข้มงวดเพื่อที่จะได้นำตัวผู้ที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.จำรูญ คำมา สว.กก.2 บก.ปคบ. โทร. 062-3935995