ผู้ใหญ่บ้านพัทลุง ปืนโหด

“…รวบแล้ว ผู้ใหญ่บ้านพัทลุง ปืนโหดรัวดับลูกบ้าน 2 ศพ คาวงเหล้า อ้างถูกหยาม “ใจไม่ถึง พูดขัดเรื่องงาน” ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ หลังพบเบาะแสความขัดแย้งผลประโยชน์ยาเสพติด…”

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 เม.ย. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เข้าจับกุมตัว นายอุทัย ศรีสุวรรณ อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.142/2565 ลง 28 เม.ย.65 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุจำนวน 1 ชุด โดยจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 120/3 ม. 2 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่

การจับกุมตัวครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา นายอุทัย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายยงยุทธ แก้วมณี อายุ 28 ปี ลูกชายรองนายกเทศบาลตำบลเกาะนางคำ และ นายศราวุฒิ ชูจินดา อายุ 28 ปี จนเสียชีวิต 2 ศพ หลังตั้งวงดื่มสุราเสพยาบ้าด้วยกัน ที่ขนำในสวนปาล์มน้ำมันริมทะเลสาบสงขลา ท้องที่หมู่ 9 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ก่อนจะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่ดารติดตามจับกุมตัว นายอุทัย ได้ดังกล่าว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ นายอุทัย พบ ก่อนหน้านี้เคยก่อคดีฆ่าผู้อื่นมาแล้ว 3 ราย โดยเมื่อปี 2554 ได้ก่อคดีฆ่าผู้หญิงในหมู่บ้าน แล้วหลบหนีไปนานกว่า 8 ปี ก่อนกลับมามอบตัวสู้คดี ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล รวมถึงยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด แต่ญาติได้นำไปบำบัดจนอาการดีขึ้น ก่อนจะกลับมารับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ 8 เดือน กระทั่งมาก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว

จากการสอบสวน นายอุทัย ให้การรับสารภาพ ว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุขณะที่นั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันนั้น ได้ถูกผู้ตายพูดท้าทาย เหยียดหยาม หาว่าตนเองไม่แน่จริง ใจไม่ถึง ประกอบกับมักถูกผู้ตายพูดขัดหูเวลาทำงาน จึงเก็บเป็นความแค้นสะสมเรื่อยมา กระทั่งบรรดาลโทสะชักปืนออกมาก่อเหตุดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.เกาะนาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากคำให้การของนายอุทัย ข้างต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เนื่องจากแนวทางสืบสวนพบเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับความขัดแย้งผลประโยชน์ยาเสพติด ระหว่าง ผู้ก่อเหตุกับผู้ตาย ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลสืบสวนต่อไป