“…”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ยื่นร้อง 6 รอง ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบวินัยผิดกฎหมาย-ข้ามขั้นตอน-ขาดความยุติธรรม เผยผู้ที่มีอำนาจในการสอบสวนวินัยร้ายแรงยังเป็นบุคคลที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเป็นคู่ขัดแย้งกับตน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเป็นกลางและความยุติธรรมในการสอบสวน…”
วันที่ 4 มีนาคม 2568 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เกี่ยวกับการดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงที่ผิดกฎหมาย ขาดความยุติธรรม และข้ามขั้นตอน โดยมีรอง ผบ.ตร. จำนวน 6 คน ถูกตั้งข้อสังเกตในการปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้ดำเนินการผิดขั้นตอนในหลายกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. ในขณะนั้น ไม่มีอำนาจออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ตนเองถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการชี้แจงว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามกรอบกฎหมายที่กำหนดไว้ ไม่มีการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และไม่ให้โอกาสตนในการชี้แจงข้อเท็จจริงก่อนการตัดสินใจ ซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังได้ชี้ให้เห็นว่า กรรมการสอบสวนวินัยบางคนไม่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการสอบสวนแล้ว เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอื่นไปแล้ว การที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปถือเป็นการฝ่าฝืนกฎ ก.ตร.
ในหนังสือร้องเรียนยังระบุอีกว่า ผู้ที่มีอำนาจในการสอบสวนวินัยร้ายแรงยังเป็นบุคคลที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเป็นคู่ขัดแย้งกับตน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเป็นกลางและความยุติธรรมในการสอบสวน โดยที่ผ่านมา ตนได้ร้องเรียนเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขหรือดำเนินการใดๆ จนเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 86
การร้องเรียนครั้งนี้จึงเป็นเสียงสะท้อนถึงความไม่โปร่งใสและความบกพร่องในกระบวนการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการทำงานขององค์กรตำรวจ
#สืบจากข่าว
อติชาต สุขยืน : รายงาน
