เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่บริเวณริมฟุตบาทด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ “ป้าน้อย” หรือ นางนงนุช บ่ายคล้อย อายุ 60 ปี ชาวบ้านจากเขตตลิ่งชัน ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสะเทือนใจหลังถูกทำร้ายร่างกายจนสลบ และสูญเสียสร้อยคอราคาหมื่นบาทหายไปครึ่งเส้น เมื่อ 3 เดือนก่อน โดยคดียังไม่มีความคืบหน้า เธอจึงตัดสินใจร้องขอความเป็นธรรมจากกองปราบฯ
ป้าน้อยเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 06.40 น. ขณะที่เธอกำลังเดินทางไปทำบุญใส่บาตรในวันพระใหญ่ หลังจากเล่นไพ่ดัมมี่กับเพื่อนมาทั้งคืน เธอถูกทำร้ายโดย เมียและลูกๆ ของนายน้อย ซึ่งเป็นคู่กรณีที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน บริเวณตลาดซอยบางแวก 2 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อเมียนายน้อยได้ยินป้าน้อยพูดถึงปัญหาที่มีกับคนในซอย จึงไม่พอใจและเข้าผลักอกป้าน้อย ก่อนจะคว้ามีดและเรียกลูกๆ มารุมทำร้ายจนเกิดการต่อสู้กัน ป้าน้อยถูกดึงผมและถูกลูกชายนายน้อยเตะที่ก้านคอจนสลบไป หลังจากนั้นมีคนช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพัก สน.บางเสาธง ซึ่งพบว่าสร้อยคอราคาหมื่นบาทของเธอขาดหายไปครึ่งเส้น
ป้าน้อยเผยว่า ตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองสลบไปเอง แต่ภายหลังมีคนแจ้งว่ามีคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ โดยผู้ถ่ายคลิปเสนอจะมอบคลิปให้เธอแลกกับการยกหนี้สิน 7,000 บาท เมื่อเธอดูคลิปจึงรู้ว่าถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม
เธอยังเล่าถึงสาเหตุของความขัดแย้งว่า เกิดจากเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายน้อยเมาเบียร์และพูดจาดูถูกเธอในร้านขายของชำ เธอจึงถีบเขาอย่างเบาๆ จนล้มลง หลังจากนั้นนายน้อยพยายามจะใช้มีดทำร้ายเธอ แต่ถูกญาติห้ามไว้
หลังเกิดเหตุ เมียนายน้อยมาขอเงินช่วยเหลือโดยอ้างว่านายน้อยไหล่หัก แต่ป้าน้อยปฏิเสธเพราะเห็นว่านายน้อยยังทำงานได้ตามปกติ เธอจึงบอกให้ไปฟ้องเรียกค่าเสียหายเอง
ป้าน้อยบอกว่า เธอต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจากกองปราบฯ เพราะคดีถูกทำร้ายร่างกายผ่านไป 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จาก สน.บางเสาธง ทั้งที่มีคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานชัดเจน เธอยังเผยว่าแม้แต่ทนายความที่ช่วยดูคดีก็บอกให้เลิกทำคดีเพราะโรงพักนี้ “ไม่ไหว”
“ตอนนี้ฉันยังมีอาการหน้ามืดตลอดเวลา หมอให้ยามากินจำนวนมาก แต่ตำรวจไม่ทำอะไรเลย โรงพักเหมือนร้าง มีแต่ตำรวจผี” ป้าน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้รับเรื่องและสอบปากคำป้าน้อยแล้ว พร้อมให้ความช่วยเหลือทางด้านคดีต่อไป
