มูลเหตุของคดี ในปี พ.ศ. 2557 ผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)ได้มอบอำนาจให้ นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์ กับพวก และพนักงาน กทท. คนอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง กล่าวหาว่าทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติม ในช่วงปี พ.ศ. 2545 – พ.ศ. 2555 ทำให้รัฐเสียหาย 3,300 ล้านบาท
คณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติรับเป็นคดีพิเศษในปี พ.ศ. 2556 สืบสวนสอบสวนมายาวนานจน มีนาคม พ.ศ. 2566 ร.ต.อ. สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 37/2561 ให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 34 ราย จากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 560 ราย โดยผู้ต้องหา 3 รายที่ไม่ถูกสั่งฟ้องเนื่องจากเสียชีวิต จำนวนเอกสารในคดีนี้มีทั้งหมด 72 แฟ้ม 33,377 แผ่น
คดีทุจริตเงินค่าล่วงเวลาของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นคดีที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง มีประเด็นสำคัญที่ควรทราบ
การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการสอบสวนคดีนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยมีการกล่าวหาว่าพนักงานจำนวนมากโกงค่าล่วงเวลา ทำให้ กทท. เสียหายกว่า 3,300 ล้านบาท
สุดท้าย ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการเพื่อฟ้องร้องพนักงานเพียง 34 คน จากจำนวนประมาณ 560 คน โดย ดีเอสไอได้ยุติการฟ้องร้องคดีดังกล่าว โดยมีข้อสรุปว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้ว และไม่มีการกล่าวหาผู้ใดอีกต่อไป
การเรียกร้องค่าเสียหาย กลุ่มพนักงานการท่าเรือที่ถูกกล่าวหาแต่ไม่ถูกฟ้องร้องจำนวนหนึ่ง ได้ออกมาเรียกร้องค่าเสียหายจาก กทท. เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวหา
ประเด็นที่น่าสนใจ ความโปร่งใสในการตรวจสอบและดำเนินคดีนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการยุติคดีโดยไม่ฟ้องร้องนั้น ส่งผลกระทบจากการถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
การป้องกันการทุจริตในภาครัฐ คดีนี้เป็นตัวอย่างของปัญหาการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
การติดตามผลของคดี วันอังคารที่ 18 มี.ค.68 เวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายกฤษฎา อินทามระ หรือ”ทนายปราบโกง“จะพาพนักงานฯ ที่ตกเป็นจำเลยกลุ่ม 34 คนไปฟังคำพิพากษาในคดีที่ถูกฟ้องโกงค่าล่วงเวลากว่า 3,300 ล้านบาท ที่เป็นข่าวโด่งดังมาตั้งแต่ ปี 60 คดีนี้จึงเป็นคดีสำคัญที่ต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด















