ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เปิดปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการฟอกขาวรถยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมรถเช่า พบกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเอกสารราชการเพื่อเปลี่ยนทะเบียนรถ ก่อนประกาศขายผ่านโซเชียลมีเดีย จับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย จากทั้งหมด 9 ราย ระบุขบวนการนี้มีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) ได้สั่งการให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (กก.2 บก.ทล.) นำโดย พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 (ผกก.2 บก.ทล.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการฟอกขาวรถยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมรถเช่า
จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีการแบ่งบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน ประกอบด้วย
1.กลุ่มตัวการ (Master Mind) ทำหน้าที่สั่งการและเป็นนายทุน ได้แก่ น.ส.ภัทราดา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และนายธราเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
2.กลุ่มโจรกรรมรถ ได้แก่ นายโชคชนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี, น.ส.รำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และนายวรุฒ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี (ยังหลบหนี)
3.กลุ่มปลอมเอกสาร ทำหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อฟอกขาวรถ ได้แก่ น.ส.รัตนาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และนายสิปปวินฬ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
4.กลุ่มโพสต์ขายรถ ประกาศขายรถผ่านโซเชียลมีเดีย ได้แก่ น.ส.รัมภ์วิริน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
5.กลุ่มนักบิน รับ-ส่งรถที่โจรกรรมมา ได้แก่ นายไชยวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันยักยอกหรือรับของโจร, ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานฯ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 17 มีนาคม 2568
พฤติการณ์คดี:คดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 หลัง น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งความว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพเช่ารถไปแต่ไม่คืน พร้อมตัดสัญญาณ GPS ทำให้ไม่สามารถติดตามรถได้ ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ผู้เสียหายตรวจพบว่ารถคันดังกล่าวถูกเปลี่ยนทะเบียนจาก “กบ 2812 ฉะเชิงเทรา” เป็น “กอ 5657 นครปฐม” ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จึงประสานตำรวจทางหลวงเพื่อติดตามรถ
จนกระทั่งวันที่ 8 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวได้ที่จังหวัดตาก พบว่ารถถูกขายต่อให้นายบี (นามสมมติ) ในราคา 300,000 บาท หลังเห็นประกาศขายผ่านโซเชียลมีเดีย โดยนายบีเชื่อว่าเป็นรถถูกกฎหมายเนื่องจากมีเล่มจดทะเบียนครบถ้วน
จากการสอบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท โดยเฉลี่ยฟอกขาวรถยนต์เดือนละประมาณ 4 คัน ตำรวจทางหลวงเตือนประชาชนและผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ให้ตรวจสอบเอกสารและข้อมูลคู่สัญญาอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
