วันอังคาร, มีนาคม 25, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปูพรมล่า 5 หัวเมืองใหญ่ ทั่วประเทศ ทลายเครือข่ายนายทุนปล่อยกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด พบเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปูพรมล่า 5 หัวเมืองใหญ่ ทั่วประเทศ ทลายเครือข่ายนายทุนปล่อยกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด พบเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท

ตามนโยบายรัฐบาล ที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตามปกติ มุ่งสร้างความสงบเรียบร้อยอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เร่งรัดจับกุมบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้นำนโยบายรัฐบาล มาสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้งศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศปอร.ตร. และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รอง ผอ.ศปอร.ตร. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ระบบฐานข้อมูล ตลอดจนกำหนดแนวทางการทำงานให้เป็นระบบ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งเร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ประจวบฯ ผอ.ศปอร.ตร. ได้มีการประชุมขับเคลื่อนศูนย์ พร้อมด้วยคณะทำงานฯ เพื่อขับเคลื่อน รับมอบนโยบาย และแนวทางที่จะทำให้อาชญากรรมในเมืองไทยลดลงอย่างแท้จริง จึงได้สั่งการและมอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดชฯ ดำเนินการประชุมวางแผน ทำลายเครือข่าย ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญที่น่าจะก่ออาชญากรรมร้ายแรงในบ้านเมือง ให้ตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ ดำเนินการคัดกรองเป้าหมายที่จะปฏิบัติในการตรวจค้นจับกุมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ ,พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ, พ.ต.ท.ภาคิน สุขพรหม, พ.ต.ท.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง รอง ผกก.5 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์, พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์, พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันเปิดยุทธการปูพรมปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบรวบและผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ กทม., ปทุมธานี, ชลบุรี, ขอนแก่น และ เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย ตรวจยึดของกลางหลายรายการ ดังต่อไปนี้

ยุทธการที่ 1 : ขุดรากถอนโคนเครือข่ายเงินกู้แก๊ง “พลอยสยาม เงินทุน”
ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี
พื้นที่ จ.ชลบุรี ดำเนินคดี กับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้
1.นายป๋องฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
2.นางสาวอัญชลีฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี
3.นายพิมพ์พันธุ์ฯ หรือ ติ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี (นายทุนใหญ่)
โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
พฤติการณ์ เนื่องด้วยผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. โดยให้การว่า นายป๋องฯ ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับตน โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี

จากการสืบสวน พบ นายป๋องฯ อยู่ในเครือข่าย “แก๊งป๋อง สายบันเทิง” มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มีอาวุธปืนข่มขู่ทวงหนี้ ชอบรวมกลุ่มแต่งและแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนนรบกวนประชาชน นอกจากนั้น มักจะโพสต์ภาพอาวุธปืนและซื้อขายอาวุธปืนลงโซเซียลทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ คือ 1.หน้าที่ในการหาลูกค้า โดยวิธีโปรยนามบัตรเงินกู้ตามหน้าบ้าน และสถานที่สาธารณะในเวลากลางคืน 2.หน้าที่คัดกรองลูกหนี้ และไปดูที่พักและที่ทำงานของลูกหนี้ 3. หน้าฝ่ายอนุมัติและทำสัญญา ทำหน้าที่ดูเอกสารพร้อมกับทำเอกสารสัญญาเงินกู้กับลูกหนี้ 4. ฝ่ายติดตามทวงถามหนี้ ทำหน้าที่ตามเก็บเงินกับลูกหนี้ในทุกวัน จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเครือข่ายดังกล่าวมีเงินหมุนเวียน กว่า 12 ล้าน โดยมี นายพิมพ์พันธุ์ฯ เป็นนายทุนใหญ่ และมีนายป๋องฯ, น.ส.อัญชลีฯ เป็นเครือข่ายในแก๊งดังกล่าว

ต่อมา เจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นตรวจค้นบ้านพักของนายป๋องฯ และน.ส.อัญชลีฯ พบนามบัตร พิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน” จำนวน 9 ลัง จำนวนกว่า 2 แสนใบ และเอกสารลูกหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินอีกจำนวนหลายรายการ และตรวจค้นบ้าน นายพิมพ์พันธุ์ฯ นายทุนใหญ่ของกลุ่มปล่อยเงินกู้ใบปลิว ”พลอยสยาม เงินทุน” ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
สอบถามเบื้องต้นทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพ

ยุทธการที่ 2 : “ทลายแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว เปิดเพจปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยโหด MC Credits”
พื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ดังนี้
1.นายณัฐนันท์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี
​โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
พฤติการณ์ เมื่อเดือน พ.ย.2567 นางเอ (นามสมมุติ) ได้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5
บก.ปอศ. ว่ามีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “MC Money Credit” มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ผู้นอกระบบ ร้อยละ 1.546
ต่อวัน หรือร้อยละ 564.43 ต่อปี ต่อมาเมื่อผู้เสียหายเริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยคืนไม่ตรงกำหนด กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ส่งข้อความทวงถามหนี้ ต้องการที่จะให้ผู้เสียหายชำระดอกเบี้ยที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่ซึ่งผู้เสียหายชำระหนี้จนเกินยอดเงินต้นไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมา หลังจากทำการสืบสวน จึงได้ขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบ นายณัฐนันท์ฯ แสดงตนเป็นผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายค้น ขณะตรวจค้นผู้ต้องหายอมรับว่าเฟซบุ๊กชื่อ “MC Money Credit” เป็นเพจปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลที่สนใจกู้ยืมเงิน โดยจะเน้นลูกค้าที่มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือมีกิจการเป็นของตนเอง โดยจะเดินทางไปดูกิจการและหน้างานของลูกค้าด้วยตนเอง และใช้บัญชีตนเองปล่อยเงินต้นและรับดอกเบี้ย จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
​สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ยุทธการที่ 3 : “รวบแก๊งเงินกู้คอปกขาว” หัวหมอไม่แคร์สื่อ ปล่อยกู้ 50,000 บาท ทวงคืน
250,000 บาท อัดดอกเบี้ยไม่ยั้ง ผู้เสียหายโดนยึดทรัพย์ระนาว พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท
พื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และ พื้นที่ เขตวังทองหลาง กทม.
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้
1.นายสุรทินฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี
2.น.ส.รัสรินทร์ฯ (สงวนนามสกุล)อายุ 59 ปี
3.น.ส.ภัทราพรฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
​โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก มีกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่ามีนายทุนนอกระบบปล่อยเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี และบังคับให้เขียนสัญญากู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น โอนเงิน ให้ลูกหนี้ 50,000 บาท แต่ให้เขียนสัญญา 250,000 บาท หากลูกหนี้ชำระหนี้ ไม่ตรงเวลาก็จะนำสัญญาดังกล่าว ไปฟ้องต่อศาล และบังคับคดียึดทรัพย์ อายัดทรัพย์สินจำนวนหลายราย

จากการสืบสวนพฤติการณ์และเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท และมีผู้ร่วมกระบวนการจำนวนหลายราย จึงได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อตรวจค้น 2 จุด พบหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และการฟ้องร้องคดีลูกหนี้อย่างไม่เป็นธรรมจำนวนหลายรายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป

ยุทธการที่ 4 บุกทลายที่พักนายทุนเงินกู้นอกระบบสาวเมืองเหนือ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด
รับจำนำรถจักรยานยนต์ เรียกดอกร้อยละ 186 ต่อปี
พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ดังนี้
1.นางกัลยาฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี
โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”

พฤติการณ์ น.ส.บี(นามสมมุติ) ผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ว่า นางกัลยาฯ ได้ปล่อยเงินกู้ โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 186 ต่อปี และมีการให้นำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตนเพื่อเป็นค้ำประกันให้ชำระหนี้ตามที่ต้องการ เมื่อผิดนัดชำระหนี้จะบังคับยึดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่นำมาค้ำประกัน ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาล เข้าค้นบ้านพักของนางกัลยาฯ พบ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ จอดอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆที่มากู้เงินอีกหลายราย นอกจากนี้ยังพบเอกสารเกี่ยวกับการจำนำรถ, โทรศัพท์มือถือ, เอกสารข้อมูลลูกหนี้ และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 20 รายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป

สอบถามเบื้องต้น นางกัลยาฯ ยอมรับว่าตนปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราร้อยละ 186 จริง โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตน เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์สินดังกล่าวได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามที่กำหนด

สรุปผลการตรวจค้นทั้งสิ้น 4 ยุทธการ ตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 6 จุด 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย พบเงินหมุนเวียนและยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 11 รายการ รวมมูลค่ากว่าหลายสิบล้านบาท ดังนี้
1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 6 เครื่อง
2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 22 เครื่อง
3.แท็บเล็ต จำนวน 4 เครื่อง
4.เอกสารที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเงินกู้ จำนวน 11 ชุด
5.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 21 เล่ม
6.นามบัตรที่พิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน” จำนวน 9 ลัง จำนวนกว่า 2 แสนใบ
7.กระเป๋าบรรจุ นามบัตรที่พิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน” จำนวน 3 ใบ
8.กุญแจรถมอเตอร์ไซต์และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 คัน
9.กุญแจรถยนต์และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 คัน
10.เอกสารรับจำนำรถจำนวน 4 ชุด
11.สัญญาเช่าที่ดิน จำนวน 1ชุด

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชนที่ต้องการกู้เงินจากแหล่งเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้ที่ช่องทางดังนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts