การเดินทางเยือน 3 ประเทศอาเซียนของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างวันที่ 14 -18 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และถูกมองว่าเป็นการเยือนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง โดยมีการลงนามความร่วมมือกับ 3 ประเทศคือ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา มากเป็นประวัติการณ์ถึง 108 ฉบับ
สถานการณ์ดังกล่าว ตอกย้ำความสัมพันธ์ของจีนกับอาเซียน เปรียบเสมือนสายน้ำเดียวกัน โดยการลงนามความร่วมมือ จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ 108 ฉบับ ได้แก่ การลงนามเอกสารความร่วมมือจีน-เวียดนาม 45 ฉบับ การลงนามเอกสารความร่วมมือจีน-มาเลเซีย 26 ฉบับ และการลงนามเอกสารความร่วมมือจีน-กัมพูชา 37 ฉบับ เพื่อพัฒนาสู่ประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน ครอบคลุมทุกมิติในโลกยุคใหม่
ผู้นำจีนตอกย้ำว่า จีนสนับสนุนอาเซียน เดินหน้าสู่ความสำเร็จด้วยกัน ต่อต้าน “การแยกตัวทางเศรษฐกิจ” ตอบโต้แนวคิด “ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอ” ซึ่งเป็น “กฎแห่งป่า” ที่ไม่เหมาะกับยุคสมัย คุณค่าแห่งภูมิภาค คือการยึดมั่นสันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้าง และการยอมรับความหลากหลาย สนับสนุนความร่วมมือ แทนการสร้าง “สนามเล็กรั้วสูง”
สีจิ้นผิง ย้ำว่า สงครามภาษี การเก็บภาษีตามอำเภอใจฝ่ายเดียว คือบ่อนทำลายสิทธิ และผลประโยชน์อันชอบธรรม สร้างความเสียหายต่อระบบการค้าพหุภาคี และส่งผลกระทบต่อระเบียบเศรษฐกิจโลก
การกระทำฝ่ายเดียว การใช้อำนาจนำทาง จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ไม่มีประเทศใด ต้องการหวนกลับคืนสู่การแยกตัวโดดเดี่ยว แต่ทุกประเทศ ต้องการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน และร่วมทำงาน เพื่อเดินหน้าการสร้างความทันสมัย ตามบริบทของโลกยุคใหม่
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียน ถูกก่อร่างจนกลายเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” ด้วยบริบทเน้นการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกัน มุ่งเสริมสร้างมิตรไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน
