วันอาทิตย์, พฤษภาคม 4, 2025
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่หมอไห่" จ่องานเข้า!ปมอุ้มรักษาการเลขากสทช.ไม่สนโลก-ขัดมติ กสทช.ตลก.ผู้แถลงคดีในศาลปกครองชี้ชัด "ละเลยปฏิบัติหน้าที่"

Related Posts

หมอไห่” จ่องานเข้า!ปมอุ้มรักษาการเลขากสทช.ไม่สนโลก-ขัดมติ กสทช.ตลก.ผู้แถลงคดีในศาลปกครองชี้ชัด “ละเลยปฏิบัติหน้าที่”

ประธาน กสทช.จ่องานเข้า ปมอุ้มรักษาการเลขาธิการ กสทช.ไม่สนโลก-ขัดมติ กสทช. ไม่ยอมตั้งกก.สอบวินัย จนถูก กสทช.เสียงข้างมากฟ้องหัว เผยตุลาการผู้แถลงคดีชี้ชัด “ละเลยการปฏิบัติหน้าที่” ชงองค์คณะผู้พิพากษาฟันซ้ำ

จากกรณีที่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เสียงข้างมาก 4 รายได้แก่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,รศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ,รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ได้ร่วมกันยื่นฟ้อง ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.(ผู้ถูกฟ้อง) ต่อศาลปกครองกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1764/2566 กรณี ประธาน กสทช.ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. และเปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช.ทั้งไม่ยอมลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ผศ.ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ รองเลขาธิการฯเป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ตามมติ กสทช.ในการประชุมครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 นั้น

ล่าสุด มีรายงานว่า ในการพิจารณาคดีนัดแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ตุลาการผู้แถลงคดี ได้แถลงต่อองค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

ประเด็นที่ 1 การที่ ศ.คลินิกนพ.สรณ ประธาน กสทช.(ผู้ถูกฟ้องคดี)ไม่ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการกสทช.ในการประชุมครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ทั้งกรณีไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล และไม่ลงนามคำสั่งเปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช. รวมทั้งไม่ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการฯให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.ตามมติ กสทช.นั้น ถือเป็นการ “ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่”

เนื่องจากตามเจตนารมณ์ของกฎหมายจัดตั้ง กสทช.นั้น การบริหารงานในลักษณะขององค์กรกลุ่ม ซึ่งต้องร่วมกันพิจารณาเรื่องใดๆ ประธานกรรมการจะตัดสินแทนกรรมการไม่ได้ และกรรมการคนใดคนหนึ่งจะทำแทนคณะกรรมการทั้งหมดก็มิได้ จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการมอบหมายจากคณะกรรมการเท่านั้น เมื่อคณะกรรมการมีมติย่อมมีผลผูกพันให้ต้องปฏิบัติตาม

ประเด็นที่ 2 เนื่องจากมติ กสทช. ในการประชุม ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ในวาระที่ 5.22 ยังไม่ถูกเพิกถอน จึงถือว่ายังมีผล อยู่ การที่ ศ.คลินิก นพ.สรณ ไม่แต่งตั้ง นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ (ผู้ร้องสอดที่ 2)ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทน จนกว่าการสอบสวนวินัยจะเสร็จสิ้น แม้จะมีการส่งบันทึกแจ้งเตือนเพื่อให้ดำเนินการตามมติ กสทช.ถึง 2 ครั้ง จึงถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด

ตุลาการผู้แถลงคดี เห็นว่าศาลฯควรมีคำสั่งให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษาได้แก่

1.ถอดถอนนายไตรรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และ 2.ให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายไตรรัตน์ให่เป็นไปตามมติ กสทช. และ 3.ส่วนกรณีการแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ (ผู้ร้องสอดที่ 2) ทำหน้าที่รักษาการแทนเลขาธิการ กสมช.นั้นเมื่อนายภูมิศิษฐ์ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะออกคำสั่งบังคับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้คำแถลงของตุลาการผู้แถลงคดีจะไม่ใช่คำพิพากษา ยังคงต้องรอคำตัดสินขององค์คณะตุลาการศาลปกครอง แต่กฎหมายกำหนดให้ศาลปกครองต้องพิมพ์เผยแพร่คำพิพากษาขององค์คณะและคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีต่อสาธารณะ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts