วันนี้ (8 พ.ค 68) เวลา 11.00 น. กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เปิดปฏิบัติการ Fasr Fraud Furious ล่า Young Mastermind อดีตแชมป์ประเทศไทยโครงการธุรกิจของมหาลัยดังวางแผนลักทรัพย์รถยนต์โดยใช้กลอุบายกว่า 24 คัน นำโดย พลตำรวจตรี คมกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล พ.ต.อ บุญลือ ผดุ้งถิ่น รอง ผบก.ป.ปรก.บก.ทล.
พลตำรวจตรี คมกฤช เลิศสิทธิกุล กล่าวว่า ได้จับกุมผู้ต้องหา รวมทั้งทั้งสิ้นจำนวน 4 ราย โดยแต่ละคนมีหน้าที่ แตกต่างกันออกไป นายภัทรจารินทร์ หรือนายแจ็ค ทำหน้าที่ติดต่อใช้อุบายขอเช่ารถจากบริษัทต่างๆ และได้เป็น Master Mind ของขบวนการลักทรัพย์กลอุบาย และนางสาว มนัญชยา ทำหน้าที่ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจสร้างความน่าเชื่อถือเป็นบริษัทนิติบุคคลมอบอำนาจเพื่อทำสัญญาเช่ารถและรับมอบรถยนต์ ส่วน น.ส.พรพรรณ ทำหน้าที่เป็นผู้รับ มอบอำนาจจากนิติบุคคลและทำนิติกรรมสัญญาขอเช่ารถจากผู้เสียหายและรับมอบรถยนต์ คนสุดท้าย คือ น.ส.นวรัตน์ ทำหน้าที่ เป็นผู้ชำระเงินค่าเช่ารถล่วงหน้าให้ผู้เสียหาย ฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบตรวจสอบเส้นทางการเดินโดยรับเงินสดจาก นายภัทรจารินทร์ฯ ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย
และพฤติการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหลังจากมีการแถลงข่าวของ กก.2 บก.ทล. ทลายขบวนการฟอกขาวรถยนต์ ก็ได้มีผู้เสียหายเป็นเจ้าของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งใน กทม. แจ้งว่าตนเองได้เห็นการแถลงข่าวของ จนท. แพรเชื่อว่า จนท. ตำรวจทางหลวงน่าจะช่วยเองจากแก๊งค์มิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้ผู้เสียหายแจ้งว่าเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ได้มี นายแจ็ค ได้ติดต่อเข้ามาหาผู้เสียหายและได้อ้างว่าตนเป็นพนักงานของนิติบุคคลแห่งหนึ่งด้านลำผักชี และได้ใช้อุบายอ้างกับผู้เสียหายว่าทางนิติบุคคลดังกล่าวต้องการที่จะเช่ารถยนต์บรรทุกขนาดเล็กจำนวน 6 คัน โดยเช่าเป็นระยะระยะเวลาห้าปีและตกลงค่าเช่ากันที่เดือนละ 19,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องชำระเงินค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน และได้มีการพาผู้เสียหายเข้าไปดูที่ตั้งและสถานที่ประกอบการของนิติบุคคลดังกล่าว โดยแอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่กระทำการเกี่ยวกับการ ชำแหละเนื้อสัตว์ปีกและต้องการใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะในการขนย้ายและส่งสินค้าไป ยังผู้ประกอบการต่างๆ โดยบริษัทดังกล่าวได้ตั้งอยู่ที่พื้นที่สน. ลำผักชีโดย และมักจะสร้างความน่าเชื่อถือ โดยการไปถ่ายรูปกับ คนมีชื่อเสียงเพื่อนำมาแอบอ้างในการหลอกลวงโดยมีนางสาวพรพรรณหรือต่ายแสดงตนเป็นผู้รับมอบอำนาจจากนิติบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ทำสัญญาเช่าและชำระค่าเช่ารถ และต่อมาทางผู้เสียหายได้ตรวจสอบระบบนำทาง GPS ของรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กพบว่าได้มีการถอดระบบ นำทาง GPS ของรถยนต์ ออกทันทีหลังมอบรถยนต์และเมื่อผู้เสียหายติดต่อไปยังนิติบุคคลดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อได้ผู้เสียหายจะเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวง จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ และกลุ่มคนร้ายลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายหลอกต่างๆจำนวนสี่บริษัท รวม 14 คัน รวมมูลค่าความเสียหาย 12 ล้านบาท
