ตัวตึงหมู่บ้าน เดินขอเงินชาวบ้านซื้อเหล้า เมาเอะอะโวยวาย ด่ากราด เสียงดังไปทั่ว เกิดป่วย ญาติตัดหางไม่ยุ่ง ไม่สน กู้ภัยพาส่งโรงพยาบาล กลับออกมาอยู่สภาพเดิม เดินไม่ได้ อยู่ในบ้านสุดแสนสกปรก เสื้อผ้าเกลื่อนพื้น อาหารเน่าเสีย เวลาอาบน้ำต้องรอใช้น้ำเทวดา ชาวบ้านแจ้งหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ
วันนี้ ( 19 พฤษภาคม 2568 ) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายปัฐศิวการ บุญยี่ อาสากู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่บ้านเลขที่ 188/22 เนินกะยก ซ.1 ม.5 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบชายสูงอายุ อายุประมาณ 60 ปี มีอาการป่วย เดินไม่ค่อยได้ อาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว ภายในบ้านที่ค่อนข้างรก โดยมีชาวบ้านบริเวณดังกล่าวช่วยเอาข้าวปลา อาหารมาให้กิน ส่วนญาติทราบว่าแยกย้ายออกไปมีครอบครัวกันหมด ไม่มีคนดูแล เหลือเพียงพี่สาวที่มีอาการทางจิต ต้องกินยาตลอด จึงประสาน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่กองสวัสดิการและสังคม เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชลบุรี เข้าให้การช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคากระเบื้อง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ นายสุทธิพร หรือ ตั้ม เท็งรัตน์ หรือ “ตั้ม เนินกระบก” อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นั่งถอดเสื้อ มีผ้าขาวม้าสวมปกปิดของสงวนอยู่ผืนเดียว อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว โดยพบบาดแผลอักเสบ มีหนอง บริเวณก้นกบเหนือก้น 1 แผล บริเวณข้างก้นด้านขวา 1 แผล และแผลถลอกบริเวณขาซ้าย อีก 1 แผล นั่งอยู่หน้าบ้าน โดยมีกองเสื้อผ้าที่ใส่แล้ววางกองกระจัดกระจายอยู่บนพื้นบ้านและหน้าบ้านเกลื่อนกลาดไปหมด ภายในบ้านยังพบเสื้อผ้าที่ใช้แล้วเป็นจำนวนมาก วางกระจายเกลื่อนพื้นห้อง โดยมีเศษขยะ เศษอาหารที่เน่าเสียแล้ว วางอยู่รวมกัน โดยภายในบ้านมี 2 ห้อง ห้องแรกถูกปิด เปิดไม่ได้ ส่วนอีกห้องใช้สำหรับนอน มีที่นอนเก่า ๆ สกปรก ดำ มีคราบสกปรกเต็มที่นอน พร้อมมุ้งเก่า ๆ อยู่ในห้อง ซึ่งที่บ้านหลังดังกล่าวไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ เนื่องจากถูกตัดจนหมด โดยจะใช้น้ำฝนที่รองใส่ตุ่มขนาดใหญ่วางอยู่หน้าบ้านไว้ใช้อาบน้ำ ทำภารกิจส่วนตัว แต่พบว่าในบ้านมีกลิ่นเหม็นอับชื้น กลิ่นอาหารเน่าเสีย เหม็นคละคุ้งไปทั่วในบ้าน ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบยังพบตะขาบขนาดใหญ่วิ่งเข้าไปซุกตัวอยู่ในกองเสื้อผ้าที่กองไว้ ทราบว่าเสื้อผ้าดังกล่าวเป็นเสื้อผ้าที่ชาวบ้านทิ้งแล้วตามถังขยะ แล้วนายตั้มจะเก็บมาไว้ในบ้านเพื่อสวมใส่ เวลาเพื่อนบ้านจะนำไปทิ้งก็จะถูกนายตั้มดุด่าเสียงดัง จนไม่มีใครอยากยุ่งด้วย
จากการสอบถามประวัติจาก นายสมชาย โหมดสง่า อายุ 69 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกัน เปิดเผยว่า นายตั้มเมื่อก่อนนี้เป็นช่างซ่อมรถพ่วง ตอนหลังก็ออกจากงาน ก็มีพฤติกรรมแสบไม่ใช่เล่น เวลาตอนยังดีดีอยู่ก็มักจะขอเงินชาวบ้านไปซื้อเหล้ากินอยู่เป็นประจำ พอเมาก็ไปโวยวาย ด่าทอชาวบ้านคนอื่นเสียงดัง ระรานคนอื่นไปทั่วชุมชน จนชาวบ้านเอือมระอา ไม่อยากยุ่งด้วย โดยก่อหน้านี้ นายตั้มได้ไปหกล้มในตลาดแล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวไปส่งรักษาที่โรงพยาบาล จนหายไปนานหลายเดือน พอมีคนแถวนี้ไปพบที่โรงพยาบาล จึงสอบถามอาการที่โรงพยาบาลทราบว่า ทางโรงพยาบาลพยายามติดต่อญาติแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่รู้จักบ้านจึงให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนจะมีคนพากลับมาอยู่ที่บ้านได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ โดยมีชาวบ้านแถวนั้นคอยให้ข้าวให้น้ำประทังชีวิต จนกระทั่งมีคนไปแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มารับตัวไปรักษาตัวอีกครั้ง
จากการสอบถาม นางสาวสุวรรณา เท็งรัตน์ อายุ 60 ปี พี่สาวที่มีอาการทางจิต ถ้าไม่ทานยาก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง ทราบว่า นายตั้มมีครอบครัวแล้ว แต่เมียทนพฤติกรรมไม่ไหว เลิกรากันไปนานแล้ว ส่วนลูกมี 2 คนเป็นผู้หญิง ก็ไปมีครอบครัวและไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ซึ่งก็ไม่เคยกลับมาดูแลเหมือนกัน ส่วนญาติก็เหลือแต่ตนเอง ที่ต้องไปหาหมอกินยาเหมือนกัน ก็อยากให้ช่วยพานายตั้มไปรักษาแผล และดูแลด้วย เพราะตนเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเหมือนกัน
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับตัว นายสุทธิพร หรือ ตั้ม เท็งรัตน์ ไปให้แพทย์จากโรงพยาบาลแหลมฉบังรักษาแผลที่ติดเชื้อก่อน รวมทั้งตรวจสุขภาพจิตพร้อมทั้งรักษา ก่อนจะดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป








