กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.๒ บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.กษิดิ์พิชญ์ สุภาสูรย์ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.นพดล กั้งสกุล, ด.ต.นิติธร ปานพวงแก้ว ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นางสาวอณุภาฯ อายุ 64 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใดๆโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน” (ตามหมายจับของ ศาลอาญา ที่ 2732/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568)
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนิติบุคคลแต่ละราย จำนวน 8 ราย ซึ่งมีพฤติการณ์จัดตั้งและจดทะเบียนที่ตั้งนิติบุคคลในสถานที่เดี่ยวกัน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ใน ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในความผิดเกี่ยวกับ เจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดยไม่มีการออกใบกำกับภาษีขาย และใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้า ไม่มีการทำเอกสารหลักฐานการจ่ายเงิน และทางบริษัทฯ ไม่ยื่นยอดขาย หรือยื่นยอดขายไว้น้อยกว่าข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบ เข้าลักษณะเป็นการปกปิดข้อมูลการมีเงินได้เพื่อจะไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งมูลค่าความเสียหายต่อรัฐ ซึ่งเกิดจากการกระทำของนิติบุคคลทั้ง 8 ราย เสียหายกว่า 800 ล้านบาท
ต่อมา กก.2 บก.ปอศ. ได้มีการสืบสวนสอบสวนนิติบุคคลแต่ละราย เพื่อหาตัวผู้บงการ และผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง จนกระทั่งพบว่านิติบุคคลทั้ง 8 ราย มีการดำเนินการจดทะเบียน โดยมีความสัมพันธ์กันปรากฏจากสถานที่จัดตั้งเดียวกัน รวมทั้งกรรมการแต่ละนิติบุคคล พบว่า เป็นเพียงลูกจ้าง, แม่บ้าน และคนรู้จักคุ้นเคย และเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา กก.2 บก.ปอศ. ได้ทำการจับกุมตัว นางสมบุญฯ ซึ่งเป็นกรรมการ บริษัทฯ (หนึ่งใน นิติบุคคล 8 ราย) ตรวจสอบเบื้องลึก ยังเป็นกรรมการฯ อีก 2 แห่ง ที่มีพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน จากการสอบถามนางสมบุญฯ รับว่าเป็นเพียงพนักงานทำความสะอาด (แม่บ้าน) ที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแหลมฉบัง ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้มีการร่วมกันสืบสวนมาก่อนหน้านี้
จากนั้น ชุดสืบสวนสอบสวนร่วมกับกรมสรรพากร ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน จนเชื่อว่านิติบุคคล 8 ราย น่าจะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือและเป็นตัวการที่แท้จริงในการบงการ สั่งการและได้รับผลประโยชน์
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถนำไปสู่การออกหมายจับ นางสาวอณุภา ฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า เป็นผู้รับผลประโยชน์ และคนคอยบงการ สั่งการ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2732/2568 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใดๆโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน” ทั้งนี้จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา โดยให้รายละเอียดเพียงว่า ตนเป็นเพียงโบรกเกอร์ในการดำเนินการ ได้รับการว่าจ้าง เมื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับในการว่าจ้างต่างๆ ผู้ต้องหาขอให้การและยื่นพยานหลักฐานในชั้นศาล และผู้ต้องหาไม่ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่จดจัดตั้งนิติบุคคล ทั้ง 8 ราย ซึ่งเป็นบ้านของสามี (ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) และเป็นบ้านที่ตนเคยพักอาศัยอยู่
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษี เลี่ยงภาษี โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และภาษีสรรพสามิต เป็นเหตุให้รัฐ ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ และฝากเตือนถึงประชาชน ห้ามขาย หรือให้บัตรประชาชนแก่ผู้อื่นโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ มิเช่นนั้นจะตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว หากพบเบาะแสการกระทำความผิด ดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่ Website : https://cib.go.th/ FB : ตำรวจสอบสวนกลาง
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ. เบอร์โทรศัพท์ 064-989-1932 , กองกำกับการ ๒ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เบอร์โทรศัพท์ 02-191 9191 ต่อ 2701

