โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเตือนสหรัฐฯ อย่าทำลายข้อตกลง ณ นครเจนีวา ด้วยการเลือกปฏิบัติกับจีน แถมบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหาจีนว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
สำนักข่าวซินหัว รายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่าสหรัฐฯ ได้ทำลายฉันทามติ ที่บรรลุระหว่างการเจรจาทางเศรษฐกิจ และการค้าจีน-สหรัฐฯ ณ นครเจนีวา ด้วยการดำเนินมาตรการจำกัด แบบเลือกปฏิบัติหลายประการกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการเหล่านั้น ประกอบด้วย การออกแนวปฏิบัติควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ ระงับการจำหน่ายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปสู่จีน และประกาศเพิกถอนวีซ่าของนักศึกษาชาวจีน
การกระทำเหล่านี้ ละเมิดฉันทามติ ที่บรรลุระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างผู้นำสอง ประเทศเมื่อวันที่ 17 ม.ค. อย่างร้ายแรง และส่งผลเสียต่อสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายของจีน โดยสหรัฐฯ ก่อความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้าใหม่อยู่ฝ่ายเดียว ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทวีคูณความไม่แน่นอน และความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี โดยสหรัฐฯ ไม่ได้ไตร่ตรองการกระทำของตนเอง แต่ยังกล่าวหาจีนอย่างไม่มีมูลว่า ละเมิดฉันทามติ ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างมาก และจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผลเหล่านี้
ทั้งนี้ จีนได้ยกเลิกหรือระงับ มาตรการภาษีศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปรับใช้ก่อนหน้านี้ เพื่อรับมือกับ “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ของสหรัฐฯ โดยจีนกระทำการอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงฉันทามติ ที่บรรลุระหว่างการเจรจา ณ นครเจนีวา ดำเนินการตามฉันทามติอย่างจริงจัง และสนับสนุนค้ำจุนฉันทามตินี้อย่างแข็งขันและจริงใจ พร้อมมุ่งมั่นปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ ของตนเองอย่างแน่วแน่
โฆษกกระทรวงฯ สำทับว่า ผลลัพธ์ของการเจรจา ณ นครเจนีวา ถือเป็น “สิ่งที่ได้มาด้วยความยากลำบาก” จึงกระตุ้นเตือนสหรัฐฯ ทำงานร่วมกับจีนในทิศทางเดียวกัน แก้ไขการกระทำผิดพลาดทันที ร่วมรักษาฉันทามติของการเจรจา และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพอันดีและยั่งยืน แต่หากฝ่ายสหรัฐฯ ยืนกรานจะเดินบนเส้นทางที่ผิด และยังคงบ่อนทำลายผลประโยชน์ของจีน จีนจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย