วันเสาร์, มิถุนายน 7, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่มโรงงานเหยื่อแอปฯ หาคู่ สูญกว่า 2.2 แสนบาท ไม่ได้เจอสาว ซ้ำคดีไม่คืบหน้า 6 เดือน

Related Posts

หนุ่มโรงงานเหยื่อแอปฯ หาคู่ สูญกว่า 2.2 แสนบาท ไม่ได้เจอสาว ซ้ำคดีไม่คืบหน้า 6 เดือน

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี หนุ่มโรงงานในจังหวัดชลบุรี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ และทนายเจส ณัฐปกรณ์ สุดชา หลังจากถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันหาคู่จนต้องสูญเงินไปกว่า 223,000 บาท โดยที่ไม่เคยได้พบหน้าหญิงสาวที่หวังจะสานสัมพันธ์ด้วย นายสมชายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ตนได้พบเห็นเว็บไซต์หาคู่เด้งขึ้นมาในเฟซบุ๊ก ด้วยความเหงาและไม่มีแฟน จึงตัดสินใจติดต่อเพจนัดสาวเอ็นเตอร์เทนแห่งหนึ่ง โดยมีแอดมินชื่อ “โฟกัส” ติดต่อพูดคุยผ่านทางไลน์ และแจ้งว่าสามารถนัดสาวออกเดทได้ แต่ต้องเสียค่าสมัคร 1,000 บาท ก่อนจะส่งลิงก์มาให้ เมื่อกดเข้าไปพบกับ “ฝ่ายธุรกรรมทางการเงิน” ซึ่งได้หลอกให้โอนเงินอีกหลายครั้ง


เว็บไซต์ดังกล่าวเปิดโอกาสให้เลือกผู้หญิงที่สนใจ และแนะนำให้เติมเงินเพื่อใช้งานเว็บไซต์ได้ ด้วยความเชื่อใจ นายสมชายจึงเติมเงินไป 500 บาทในครั้งแรก หลังจากนั้นตนได้เลือก “น้องโมจิ” สาวที่ถูกใจ แต่กลับไม่สามารถนัดเจอหรือแม้แต่พูดคุยกับเธอได้ โดยมิจฉาชีพอ้างเหตุผลต่างๆ ก่อนจะให้โอนเงินเพิ่มเป็นค่าปลดล็อกบัญชีบ้าง อ้างว่าเบิกเงินเกินบัญชีบ้าง ทุกครั้งจะต้องโอนเงินเพิ่มครั้งละ 30,000 – 60,000 บาท

ต่อมา มีผู้ชายแอดไลน์มาคุย อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาเว็บหาคู่ แนะนำให้เพิ่มวงเงินอีกครั้งโดยจะลดวงเงินให้จาก 60,000 เหลือ 30,000 บาท นายสมชายเล่าว่าตนใช้เงินเก็บที่มีอยู่ นำรถจักรยานยนต์เข้าไฟแนนซ์ รวมถึงหยิบยืมญาติพี่น้องและเพื่อนๆ มาโอนให้มิจฉาชีพไปทั้งหมด 10 ครั้ง ผ่านหลายบัญชีและหลายธนาคาร สุดท้ายมิจฉาชีพได้เพียงส่งรูปน้องโมจิมาให้ดูต่างหน้าเพียงภาพเดียว โดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยหรือนัดเจอกัน แต่กลับต้องสูญเงินไปกว่า 2.2 แสนบาท
มิจฉาชีพอ้างว่าต้องมีการเติมเงินเข้าระบบอีกหลายครั้ง และหลอกให้ทำภารกิจต่างๆ โดยสัญญาว่าจะได้เงินทั้งหมดคืนเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ด้วยความหวังที่จะได้เงินคืน แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้


เมื่อนายสมชายไปปรึกษาเพื่อนๆ และทนายความ ทุกคนต่างบอกตรงกันว่าตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ก่อนที่ตำรวจจะอายัดบัญชีธนาคารต่างๆ ในเวลาต่อมา ผ่านมา 6 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า นายสมชายเกิดความเครียดอย่างหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงขั้นคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย ก่อนจะมีคนแนะนำให้มาปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ เพื่อพาเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามต่อไป หวังดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพให้ถึงที่สุด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว และจะดำเนินการหาทางช่วยเหลือต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts