อนาคตของเด็กชายวัย 14 ปี ต้องดับวูบลง หลังประสบอุบัติเหตุถูกรถปิกอัพชนขณะขับขี่จักรยานยนต์ไปรับหนังสือรับรองการเรียนจบวุฒิการศึกษามัธยม 3 หวังจะเอาไปสมัครเรียนต่อมัธยมปีที่ 4 ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระทบกระเทือนสมองอย่างรุนแรง กระดูกแขนขาหลายท่อน แพทย์ระบุ ถึงจะรักษาหายแต่ก็จะเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปตลอดชีวิต คุณยายสุดปวดใจเหมารถพยาบาลพามาร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หวังให้ช่วยเร่งรัดคดีและได้รับความเป็นธรรมเพราะตั้งแต่เกิดเหตุต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้วกว่า 6 หมื่น ไร้การเยียวยาหรือให้ความช่วยเหลือจากคู่กรณีที่ขับเฉี่ยวชนเลย ด้านตำรวจท้องที่ สภ.บ้านแพ้ว เรียกแม่คนเจ็บไปเจรจาทั้งที่แม่มีอาการป่วยด้านจิตเภท บอกอยากได้เงินให้ไปฟ้องเอาเพราะเด็กเป็นฝ่ายผิด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิย.68 นาง อรพรรณ พลายขำ อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางมาพร้อมกับจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ และ นายมานพ สีเหลือง ทีมงานจ่าคิงส์ฯ ที่บริเวณหน้า กองการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม กรณีหลานชาย นายธเนศ หรือ น้องนาย พลายขำ อายุ 15 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 2 กฉ 3499 ราชบุรี ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน บฉ9501 สมุทรสงคราม ซึ่งมีนายศรยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี เป็นผู้ขับขี่ เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 15.30 น. ที่บริเวณถนนบ้านตาว๊าก หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
นางอรพรรณ เล่าด้วยน้ำเสียงปวดร้าวว่า น้องนาย หลานชายอาศัยอยู่กับตนมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากแม่ของหลานมีสติไม่สมประกอบและไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อก็ไม่เคยมีตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์ หลานชายเป็นความหวังเดียวของครอบครัว กำลังตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่ออนาคตจะได้กลับมาดูแลตนเองและครอบครัวได้
เหตุการณ์เศร้าสลดเกิดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2568 หลานชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปรับหนังสือรับรองผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเตรียมตัวสมัครเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น จะได้มีอนาคตที่ดีและสามารถเลี้ยงดูคุณยายต่อไปได้ แต่ระหว่างทาง หลานชายกลับถูกรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุคันดังกล่าวพุ่งชนอย่างรุนแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่รับรู้สิ่งรอบข้าง และต้องรับอาหารทางสายยางไปตลอดชีวิต
สิ่งที่ทำให้คุณยายเสียใจยิ่งกว่าคือ คู่กรณีไม่เคยเข้ามาเยียวยาหรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย อีกทั้งคดีความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ก็กลับเงียบหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว ได้แอบตามแม่น้องนายซึ่งมีอาการทางจิตไปพบเพื่อคุยกับคู่กรณีแต่ก็ตกลงกันไม่ได้เพราะน้องนาย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
นางอรพรรณ พยายามทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ทางคู่กรณีไม่มาช่วยเหลือดูแลใดๆ ทางครอบครัวต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลหมดไปกว่า 6 หมื่นบาท วันนี้ตนยังต้องควักเงินเช่ารถพยาบาลพาหลานชายมาร้องขอความเป็นธรรม ค่าเช่า 6 พันบาท แต่ยังมีน้ำใจลดให้เหลือ 5 พันบาท
ตนหมดหนทางจึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์ เพื่อขอให้พามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม หวังว่าหน่วยงานส่วนกลางจะสามารถทวงคืนความเป็นธรรมให้กับหลานชายได้
คุณยายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ จะนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนที่โปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้หลานชายได้รับความยุติธรรมและการเยียวยาที่เหมาะสมกับความเสียหายที่เกิดขึ้น และเพื่อให้คู่กรณีได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม รับเรื่องตรวจสอบหาทางช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป
