วันศุกร์, มิถุนายน 27, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมกองปราบฯ ปิดปฏิบัติการปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ลวงเปิดบัตรเดบิต หลอกเอารหัส OTP ไปใช้จ่ายสิ้นเปลือง พบผู้เสียหาย 394 ราย มูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท

Related Posts

กองปราบฯ ปิดปฏิบัติการปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ลวงเปิดบัตรเดบิต หลอกเอารหัส OTP ไปใช้จ่ายสิ้นเปลือง พบผู้เสียหาย 394 ราย มูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท

เวลา 10.00 น.วันที่ 27 มิ.ย.68 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. แถลงผลการปฏิบัติปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ลวงเปิดบัตร หลอกเอา OTP ซื้อทอง”

พบผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 394 ราย ความเสียหายรวมกว่า 20 ล้านบาท โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด3 ราย คือนายกรกรต อายุ 29 ปี นายกฤตนัย อายุ 28 ปี นายปพนธีร์ อายุ 30 ปี ซึ่งกระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาและร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ พร้อมตรวจยึดของกลาง จำนวน 53 รายการ รถเก๋ง ยี่ห้อหรู โทรศัพท์มือถือจำนวน 23 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กจำนวน 6 เครื่อง เครื่องนับธนบัตรจำนวน 1 เครื่อง แผ่นทองคำจำนวน 2 แผ่น ซิมการ์ด สมุดบัญชีและอุปกรณ์อื่นๆอีก 20 รายการ สถานที่จับกลุ่ม นาย กรกรตและ กฤตนัย จับกุมได้ที่บริเวณห้องพักคอนโดซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ส่วน นายปพนนธีร์ฯ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักบริเวณ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ กล่าวว่า พฤติการณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของธนาคารกรุงไทย แจ้งว่ามีกรณีที่ลูกค้าของธนาคารกรุงไทยหลายราย ซึ่งมีความสนใจสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ได้ถูกคนร้ายหลอกลวงให้สมัครบัตรผ่านช่องทางออนไลน์โดยคนร้ายแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถดันเคสได้ อ้างว่ารายได้น้อยก็สามารถสมัครได้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ให้ลูกค้าประเมินให้คะแนนความพึงพอใจในระดับดีมากเมื่อลูกค้าหลงเชื่อทำตามขั้นตอนและสมัครบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้วปรากฏว่ายอดเงินในบัตรได้ถูกรูดซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในทันทีโดยที่ลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ทำรายการ

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเป็นการกระทำผิดในรูปแบบลักษณะเป็นกลุ่มแก๊งขบวนการคล้ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนทั่วประเทศเป็นจำนวนหลายรายจึงได้รวบรวมหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด3 รายและตรวจสถานที่ ที่เกี่ยวข้อง 4 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดกรุงเทพมหานคร ลพบุรี ปทุมธานี และคนร้าย จะบันทึกภาพหน้าจอขณะวิดีโอคอลไว้ตลอดจำนวน 16 หลักของบัตรเดบิต รหัสCVV วันหมดอายุไปทำการสั่งซื้อของมีค่าผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์โดยเมื่อมีรหัส OTP แจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย คนร้ายจะออกรหัส OTP ดังกล่าวและนำมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทำให้ยอดเงินใน บัตรเดบิตของผู้เสียหายจะถูกตัดไปชำระค่าสินค้า ที่ผู้ต้องหาสั่งซื้อในทันทีจากนั้นผู้ต้องหาจะวางสายสนทนาและบล็อกช่องทางติดต่อทันที

จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ว่ามีแรงจูงใจอะไรในการที่มาหลอกลวงประชาชนในลักษณะเช่นนี้ ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าเขาถูกหลอกในลักษณะนี้มาก่อนเขาก็เลยจำแล้วนำมาปรับแปลงใช้ด้วยตัวเอง ซึ่งทางตำรวจก็ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่พบว่าไม่มีหมายจับหรือมีส่วนเกี่ยวข้องตรงนั้น คนร้ายทำมาตั้งแต่ปี 2566 โดยใช้เป็นอาชีพหลักกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาได้เงินจากผู้เสียหายมาก็จะรีบเอาไปใช้ให้หมดเลยซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีของผู้ต้องหาล่าสุดพบเงินไม่ถึงหลักหมื่นในบัญชี อละพบผู้เสียหายรวมเกือบ 400 รายในช่วงตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 256 จนถึงปัจจุบัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts