วันอังคาร, สิงหาคม 12, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมประธาน กสม. มีหนังสือด่วนที่สุดถึง รมว.แรงงาน แจ้งข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะกรณีแรงงานไทยที่จะไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2025 เพื่อคุ้มครองมิให้ถูกละเมิดสิทธิฯ

Related Posts

ประธาน กสม. มีหนังสือด่วนที่สุดถึง รมว.แรงงาน แจ้งข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะกรณีแรงงานไทยที่จะไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2025 เพื่อคุ้มครองมิให้ถูกละเมิดสิทธิฯ

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แจ้งข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะกรณีแรงงานไทยที่จะไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2025 สรุปว่า

ในส่วนข้อเท็จจริงและข้อห่วงกังวล กสม. เห็นว่าการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากเดิมที่กำหนดให้นายจ้างในไทยขออนุญาตพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศและทำสัญญาจ้างแรงงานในไทย เป็นการแจ้งการเดินทางไปทำงานด้วยตนเองและทำสัญญากับนายจ้างในสวีเดนโดยตรงเช่นเดียวกับฟินแลนด์ และมีสถานะเป็นแรงงานตามฤดูกาล (Seasonal Worker) การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงานดังกล่าวส่งผลให้แรงงานไทยที่จะไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานของไทย เนื่องจากการจ้างงานและสัญญาจ้างแรงงานเกิดขึ้นและดำเนินการภายใต้กฎหมายของต่างประเทศ จึงไม่มีจุดเกาะเกี่ยวกับประเทศไทย อีกทั้งการทำสัญญาจ้างแรงงานกับนายจ้างในสวีเดนและฟินแลนด์โดยตรงมีความเสี่ยงที่จะถูกเอาเปรียบได้

นอกจากนี้แรงงานไทยไม่มีความรู้ด้านภาษา การขอตรวจลงตรา กฎระเบียบเกี่ยวกับการจ้างงานและการทำสัญญาเพียงพอ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทผู้ประสานงานในไทย ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาหลายประการ เช่น การหลอกลวง การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจำนวนมากโดยไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายใด และการหักค่าใช้จ่ายจนแรงงานมีรายได้จากการเก็บผลไม้ป่าต่ำกว่าที่ควรได้รับ รวมถึงการจัดหาที่พักอาศัยและอาหารที่ไม่เหมาะสม

กสม. เห็นว่าการคุ้มครองแรงงานควรเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ที่รับรองสิทธิของทุกคนที่จะมีสภาพการทำงานที่ยุติธรรม ค่าจ้างที่เป็นธรรม สภาพการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ การพักผ่อน เวลาว่างและข้อจำกัดที่สมเหตุสมผลในเรื่องเวลาทำงาน รวมทั้งการไม่ข่มขืนใจให้ทำงานโดยนำภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือของผู้อื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำความผิดฐานบังคับใช้แรงงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551

จากข้อเท็จจริงข้างต้น เพื่อคุ้มครองแรงงานไทยที่จะไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2025 ในเบื้องต้น กสม. จึงมีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการ ดังนี้

(1) สัญญาจ้างแรงงานสำหรับการเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ ฤดูกาล 2025 ต้องผ่านการตรวจพิจารณาจากกระทรวงแรงงานและการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในสวีเดนและฟินแลนด์ โดยให้กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน ได้แก่ รายละเอียดการทำงาน เช่น ระยะเวลาของสัญญา วัน เวลา และชั่วโมงการทำงาน วันหยุด สถานที่ทำงาน ที่พัก รถรับส่งไปสถานที่ทำงาน การรักษาพยาบาล เครื่องมือการทำงาน และสวัสดิการต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายที่นายจ้างต้องรับผิดชอบ เช่น ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ค่าประกันภัย ค่าน้ำมันรถ และรายได้ที่ลูกจ้างได้รับและค่าใช้จ่ายที่ลูกจ้างต้องรับผิดชอบ เช่น เงินประกันรายได้ขั้นต่ำ ค่าจ้างรายชั่วโมงหรือรายวัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างวันหยุด ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง ค่าใบอนุญาตทำงาน ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นต้น รวมทั้งกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการเมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน และให้กระทรวงแรงงานเก็บสัญญาจ้างแรงงานไว้เป็นหลักฐานด้วย

(2) ระบุค่าใช้จ่ายที่บริษัทผู้ประสานงานจะเรียกเก็บจากแรงงานได้ล่วงหน้าให้ชัดเจน

(3) จัดเวทีสาธารณะในจังหวัดเป้าหมายที่จะมีแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในทั้งสองประเทศ สัญญาจ้างแรงงาน สิทธิของแรงงาน ข้อควรปฏิบัติในการทำงาน รวมถึงช่องทางการขอรับความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาจากการจ้างงาน

(4) ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทนายจ้างในสวีเดนและฟินแลนด์ว่าเป็นบริษัทที่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศหรือไม่ และให้ความคุ้มครองแรงงานไทยในการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน เข้าตรวจเยี่ยมสภาพการจ้างและที่พัก รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางคดีเมื่อเกิดข้อพิพาทด้านแรงงานและคดีความต่าง ๆ ของแรงงานไทยในสวีเดนและฟินแลนด์

และ (5) เนื่องจากในปีที่ผ่านมาและในปีนี้ การดำเนินการเพื่อให้แรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและฟินแลนด์กระทำในระยะเวลากระชั้นชิด ใกล้เคียงกับฤดูกาลเก็บผลไม้ป่า (ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน) ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือป้องกันปัญหาแรงงานไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากบริษัทผู้ประสานงานในไทยและบริษัทนายจ้างในสวีเดนและฟินแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิผล ดังนั้น ในฤดูกาลถัดไป จึงขอให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนการดำเนินการล่วงหน้าในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยความรอบคอบ โดยให้ตัวแทนแรงงานและภาคีเครือข่ายแรงงานมีส่วนร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและคุ้มครองแรงงานมิให้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts