เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 นายธีรพงษ์ พัฒนาชัยเจริญ ทนายความประจำสำนักงาน ทีมทนายเพจทนายอ้วน -ผอม ได้นำ นางสาวบี อายุ 15 ปี ที่ถูก พ่อแท้ๆล่วงละเมิดทางเพศ ติดต่อกัน 44 วัน และมีการแจ้งความไว้กับทาง พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี พนักงานสอบสวน สภ.พานทอง เข้ามาที่สำนักงานอัยการคดีเยาวชนแ ละครอบครัวจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการให้ทางพนักงานสอบสวน ได้มีการสอบสวนร่วมกับทางอัยการ และสหวิชาชีพ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากยังเป็นเยาวชนอยู่
ด้านทาง นายธีรพงษ์ ทนายความ ได้เปิดเผยว่า ทางน้าของเด็ก ได้เข้าไปส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือ ในเพจทนายอ้วน – ผอม ว่าหลานถูกพ่อแท้ๆข่มขืน ขึงได้ยื่นมือรับอาสา มาเป็นทนายให้ และทราบว่า พ่อเริ่มกระทำชำเราวันแรก ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 6เมษายน 2565 กระทำชำเราต่อเนื่องเป็นเวลาทั้งหมด 44 วัน ยกเว้นวันอาทิตย์ เพราะแม่อยู่ ซึ่งพ่อจะอาศัยช่วงเวลาที่แม่ไปทำงานเข้ากะเช้า เวลา 06.00 น. พ่อจะเข้ามากระทำตอน 06.00-07.00 น. ก่อนเด็กไปโรงเรียน กระทำต่อเนื่องทุกวัน พอความแตก พ่อมักโทรมาต่อว่า และมาต่อว่าถึงบ้านน้า ว่าลูกเป็นตัวปัญหา ทำครอบครัวเดือดร้อน ชอบสร้างปัญหา เกิดมาเป็นตัวปัญหา ทำให้เด็กสาวมีความเครียด จนต้องย้ายไปอยู่กับน้าสาว ที่จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนหน้านั้นตั้งแต่เล็ก เด็กสาวไม่เคยอยู่กับพ่อและอยู่กับตายาย ที่จังหวัดอุบลราชธานีมาโดยตลอด จน อายุ 13 ปี ได้มาอยู่กับแม่กับพ่อ ที่ทำงานในโรงงานในอมตะ ชลบุรีและเข้าเรียน ม.1 ในเขตอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี อยู่ไม่นาน ก็ได้ถูกพ่อทำการลวนลาม โดยการจับหน้าอก แต่พอไปบอกแม่ กับบอกว่า ให้โอกาสพ่ออีกครั้ง หลังจากนั้นผ่านไปก็ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น จนมาถึงสถานการณ์โรคโควิด โรงเรียนปิด จึงกลับไปอยู่กับตายาย และกลับมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็มาถูกข่มขืน ซึ่งเด็กไม่กล้าที่จะบอกแม่ และไม่สามารถที่จะขอความช่วยเหลือใครได้ เพราะถูกผู้เป็นพ่อพ่อมีรหัส พาสเวิร์ดเฟสบุ๊คและไลน์ไว้เช็คว่ามีการบอกใครหรือไม่ อีกทั้งตอนกระทำชำเรามีการข่มขู่ว่าจะฆ่าน้าและคนที่หลานรู้จัก และตอนนี้ขณะที่พ่อของเด็ก ได้พยายามติดต่อเจรจากับตนมาพร้อมพิมพ์ข้อความสารภาพว่าได้กระทำชำเราลูกสาวแท้ๆ มายังกล่องแชท โดยใช้เฟสบุ๊คของลูกสาวคนเล็กส่งข้อความมา มีการพิมพ์ข้อความภาษาอีสานว่า “ข่อยขอโทษข่อยขอกราบละ ในสิ่งที่ข่อยผิดพลาด” และ “ข่อยยอมอีหลี ข่อยแต่งขันห้า ขอขมาเจ้าและทุกคน ข่อยสิเฮ็ดขอความเป็นพ่อลูก เป็นต้น
ส่วนทางนางสาวเอ ซึ่งเป็นน้า ที่เดินทางมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย กล่าวว่า อยากให้พ่อของเด็ก เข้ามอบตัวเรื่องจะได้จบลง หลานจะได้เรียน ส่วนตนเองจะได้ไม่ต้องกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง แต่ในเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคุยกับแม่ของหลาน แต่ก็มีความมั่นใจว่าหลานพูดจริงว่าถูกพ่อละเมิดทางเพศ อีกทั้งอยากให้ตำรวจ ออกหมายจับโดยเร็ว
ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สภ.พานทอง ได้พบกับทาง พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผู้กำกับการ สภ.พานทอง ได้มีการประชุมร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อเร่งรัดคดี หลังจากเด็กสาวที่เป็นเยาวชน มีการให้การเพิ่มเติม ต่ออัยการ พนักงานสอบสวน และสหวิชาชีพ ก่อนที่จะมีการวางแผนทำการกุมผู้เป็นพ่อของเด็ก ที่ถูกกล่าวหาข่มขืนลูก ต่อไป
