เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.ค.68 ที่ บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาทถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. “กวาง ศศิธร“ (อดีตมิส มอร์เตอร์โชว์ สกลนคร ครั้งที่ 4 / ธิดาโคนม สกลนคร / CEO READ WINK ) อินฟลูเอนเซอร์สาวพร้อมด้วยผู้เสียหายอีกราย เตรียมเข้าร้องเรียนต่อ พงส.กองบังคับการปราบปราบ โดยมี “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” เป็นผู้พาเข้าร้องทุกข์ หลังอ้างถูก“กุ๊ก”นักแข่งรถหญิงรายหนึ่ง หลอกลวงเงินลงทุนไปเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายรวมกว่า 3.3 ล้านบาท ถึงขั้นต้องนำรถปอร์เช่สุดหรูไปจำนำ
“กวาง ศศิธร“ ผู้เสียหายเปิดเผยว่าเธอรู้จักกับ“กุ๊ก”นักแข่งรถหญิงรายนี้ผ่านสามีเก่าที่เป็นนักแข่งรถด้วยกัน หลังจากนั้นช่วงที่เธอเผชิญกับมรสุมชีวิต ทั้งการเลิกรากับสามี การสูญเสียน้องชายที่ผูกคอตาย และปัญหาครอบครัวที่รุมเร้า ”กุ๊ก“ได้เข้ามาตีสนิท ทำทีเข้ามาปลอบใจและให้กำลังใจถึงที่บ้านที่จังหวัดสกลนคร ในช่วงเวลาที่จิตใจของเธออ่อนแอ
หลังจากสร้างสนิทสนมจนไว้เนื้อเชื่อใจแล้ว “กุ๊ก”ได้ชักชวนให้ผู้เธอร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยครั้งแรกเธอได้ปฏิเสธไป แต่“กุ๊ก”ไม่ย่อท้อ ได้เดินทางมาหาเธอสกลนครอีกครั้ง โดยอ้างว่าต้องการมาไหว้พระ ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนอีกครั้ง โดยระบุว่าจะนำเงิน 1 ล้านบาท ไปบริหารจัดการในธุรกิจหวย โดยมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
นอกจากนี้ “กุ๊ก“ยังสร้างเรื่องหลอกให้ลงทุนในธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีการสร้างสถานการณ์ นำภาพบริษัท ลูกจ้าง และเอกสารต่างๆ มาแสดงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เธอหลงเชื่อและโอนเงินไปให้เป็นจำนวนมาก โดยได้รับผลตอบแทนกลับมาเพียงเล็กน้อยในระยะแรก ก่อนจะถูกชักชวนให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีหลักฐานการโอนเงินและสลิปมายืนยัน
ความเสียหายหนักขึ้นเมื่อเธอจำเป็นต้องนำทรัพย์สินส่วนตัว ซึ่งคือรถยนต์ปอร์เช่ 718 เคย์แมน T มูลค่า 9 ล้านบาท ไปจำนำกับ “คุณเบนซ์” เจ้าของอินเดียนมอเตอร์ เป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยมีดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน สัญญาจำนำทำในชื่อของเธอ และรถจอดอยู่ที่อินเดียนมอเตอร์นานถึง 3 เดือน โดยเธอต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน
เมื่อเข้าสู่เดือนที่สาม “กุ๊ก”กลับไม่มีท่าทีว่าจะนำเงินต้นมาไถ่ถอนรถคืน แต่กลับไปติดต่อ “แม่ลี” ซึ่งเป็นมารดาของดาราชื่อดัง “แก้มบุ๋ม” เพื่อนำรถไปจำนำต่อที่บ้านของแม่ลีในราคา 2,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 โดย“กุ๊ก“ได้เปลี่ยนสัญญาจำนำเป็นชื่อของเธอ และรับปากจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าดอกเบี้ย แต่ในเดือนแรกกลับไม่จ่ายดอกเบี้ย โดยอ้างปัญหาต่างๆ นานา
ทำให้เธอซึ่งเป็นเจ้าของรถตัวจริง เกรงว่ารถจะถูกยึดไป จึงตัดสินใจเจรจากับแม่ลี ขออนุญาตขายรถและคืนเงินให้ เพื่อนำส่วนต่างที่เหลือกลับมา โดยรถคันดังกล่าวขายได้ในราคา 6,000,000 บาท และเธอได้คืนเงินส่วนที่เป็นของแม่ลีไป
หลังจากขายรถและเคลียร์เรื่องจำนำ เธอได้ติดตามทวงถามเงินที่เหลือจาก“กุ๊ก”มาโดยตลอด อีกจำนวนกว่า 3.5 ล้านบาท แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงและคำโกหกอยู่เสมอ
ไม่เพียงเท่านั้น“กุ๊ก“ยังได้นำชื่อของเธอไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงเงินจากบุคคลอื่นอีกด้วย ซึ่งเธอมีหลักฐานมายืนยันในเรื่องนี้
เธอจึงได้ตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากเห็นโพสต์ของ “พี่ปูน” ที่นำเรื่องราวต่างๆ มาปะติดปะต่อกัน ทำให้มั่นใจว่าต้องเรียกร้องให้“กุ๊ก” ชดใช้ค่าเสียหาย
เธอยังระบุว่าปัจจุบัน“กุ๊ก“ยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวต่างชาติ และตีสนิทกับดาราในค่ายมวยต่างๆ เพื่อนำโปรไฟล์เหล่านั้นไปใช้ในการหลอกลวงผู้อื่นต่อไป
ด้าน พี่ปู นักธุรกิจ อายุ 36 ปี บอก “กุ๊ก” ยังติดหนี้สินกับเขาอยู่อีก 1.6 ล้านบาท เบื้องต้นรวมตัวกันมีประมาณ 10 คน ทั้งคนไทยและต่างชาติ วันนี้จึงมาร่วมกับน้องกวาง มาปรึกษาตำรวจกองปราบฯ เพราะคดีที่แจ้งความไว้ สน.ตลิ่งชัน ไม่คืบหน้า ส่วนคดีของน้องกวาง ที่ สภ.เมือง สกลนคร ก็ไม่คืบหน้าเช่นกัน
หลังจากนั้นจากคิงส์ ได้พาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพื่อหารือข้อกฎหมายต่อไป












