วันอังคาร, กรกฎาคม 29, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์วัชระ เพชรทองนายกเกาะเต่าร้อง "วัชระ เพชรทอง" ช่วยเจาะบาดาล หลังประชาชนขาดน้ำใช้หน้าแล้งซ้ำซาก

Related Posts

นายกเกาะเต่าร้อง “วัชระ เพชรทอง” ช่วยเจาะบาดาล หลังประชาชนขาดน้ำใช้หน้าแล้งซ้ำซาก

“…แม้เกาะเต่าจะเป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับโลก สร้างรายได้ให้ประเทศปีละนับพันล้านบาท แต่คนในพื้นที่กลับยังไม่มีน้ำสะอาดใช้ในหน้าแล้ง เทศบาลท้องถิ่นต้องทำหนังสือร้องขอถึงอดีต ส.ส. เพื่อขอความช่วยเหลือขุดบ่อบาดาล คำถามคือ ระบบบริหารจัดการทรัพยากรของไทย กำลังทิ้งให้พื้นที่ชายขอบต้อง “พึ่งการเมือง” เพื่อเข้าถึงสิ่งพื้นฐานอย่างน้ำกินใช่หรือไม่?…”

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือจากนายอภิชาต มีเพียร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า ขอการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อขุดเจาะบ่อบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ที่เผชิญวิกฤตซ้ำซากทุกหน้าแล้ง

เทศบาลระบุว่า หมู่ที่ 1-3 บนเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน มีประชากรจริงราว 2,500 คน และประชากรแฝงจากการท่องเที่ยวอีกกว่า 15,000 คน แต่กลับไม่มีแหล่งน้ำจืดตามธรรมชาติ เนื่องจากภูมิประเทศเป็นเกาะภูเขาล้อมทะเล ทำให้ต้องพึ่งพาบ่อน้ำตื้นและบ่อบาดาลที่มีอยู่อย่างจำกัด

ปัญหาการขาดแคลนน้ำจึงเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะในช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้าพักจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของทั้งประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่

งบมีน้อย ความเดือดร้อนมีมาก

หนังสือที่ลงนามโดยนายอภิชาต ระบุว่า เทศบาลเกาะเต่าเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดเล็ก มีงบประมาณเพื่อการลงทุนเพียงปีละ 3 ล้านบาท ไม่เพียงพอสำหรับการขุดบ่อบาดาลขนาดใหญ่ตามแบบแปลนของกรมทรัพยากรน้ำ จึงจำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือจากส่วนกลางผ่านกลไกทางการเมือง

“หากได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงฯ จะสามารถแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” – ตอนหนึ่งในหนังสือระบุ

นักท่องเที่ยวไหลเข้า แต่น้ำกินยังไม่มี?

เกาะเต่าถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่มีรายได้หมุนเวียนสูง แต่กลับยังไม่มีระบบจัดการน้ำสะอาดอย่างเป็นระบบ คำถามจึงเกิดขึ้นว่า โครงสร้างงบประมาณของรัฐไทยตอบสนองความต้องการพื้นฐานของประชาชนได้เพียงพอหรือไม่?

ในขณะที่กรมทรัพยากรน้ำมีแบบแผนรองรับพร้อมใช้งาน แต่การจัดสรรงบประมาณยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในระดับพื้นที่

สถานการณ์ในเกาะเต่าอาจไม่ใช่กรณีเดียวในประเทศไทยที่ประชาชนต้องรอความช่วยเหลือจากนักการเมืองผ่านช่องทางส่วนตัว ข้อเท็จจริงดังกล่าวสะท้อนคำถามเชิงระบบว่า รัฐควรจัดการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน เช่น น้ำสะอาด อย่างไรให้ทั่วถึงและเท่าเทียม โดยไม่ต้องพึ่ง “ความช่วยเหลือเฉพาะราย”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts