รัฐบาลประกาศชัดเจนว่า “1 ตุลาคมนี้” จะเริ่มใช้นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสาย ทุกสี” เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบราง ซึ่งประหยัดทั้งเวลา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์เมืองใหญ่
นโยบายนี้สะท้อนเจตนาดีของรัฐบาล แต่คำถามสำคัญคือ..รัฐพร้อมแค่ไหน?
รถไฟฟ้าสายที่รัฐลงทุนเองล้วนๆ อย่าง สายสีแดง และสายสีม่วง ไม่มีปัญหา นโยบายนี้สามารถเดินหน้าได้ทันทีตามที่ได้ทำอยู่แล้ว เพราะไม่ติดสัญญากับเอกชน
แต่รถไฟฟ้าสายอื่นๆ เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีชมพู สีเหลือง ล้วนมีเอกชนร่วมทุนผ่านสัญญาสัมปทานที่กำหนด “โครงสร้างค่าโดยสาร” ไว้อย่างชัดเจน
หากรัฐต้องการปรับค่าโดยสารเป็น 20 บาท คำถามใหญ่จึงอยู่ที่...รัฐจะชดเชยรายได้ที่หายไปให้เอกชนอย่างไร? และที่สำคัญ จะเจรจาตกลง และแก้ไขสัญญาสัมปทานให้เสร็จทันก่อน 1 ตุลาคม ได้หรือไม่?
อย่างน้อยยังมี 5 ปม ที่ต้องเคลียร์
(1) จะใช้รายได้เดิม หรือรายได้ใหม่เป็นฐานชดเชย?
หากยึดรายได้เดิม รัฐจ่ายน้อยกว่า แต่ถ้ายึดรายได้ใหม่ (หรือตามปริมาณผู้โดยสารใหม่) รัฐจะต้องจ่ายชดเชยมากกว่า เพราะผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นหลังจากลดค่าโดยสาร
(2) หากเอกชนอ้างว่ามีต้นทุนเพิ่มจากจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น รัฐจะต้องชดเชยผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นด้วย พูดได้ว่ารัฐจะต้องชดเชยตามปริมาณผู้โดยสารใหม่
รัฐควรเจรจาให้ชัดว่า รัฐจะชดเชยเฉพาะ “ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น” เท่านั้น และหากเอกชนยังได้กำไรจากผู้โดยสารส่วนเพิ่ม…ควรมีเกณฑ์แบ่งรายได้กลับคืนรัฐ
(3) หากในอนาคตมีการปรับขึ้นค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทานเดิม
การคำนวณเงินชดเชยของรัฐจะต้องปรับตามหรือไม่?
(4) ผู้โดยสารที่ไม่ใช้สิทธิ 20 บาท และนักท่องเที่ยวที่ไม่มีสิทธิ
จะไม่นับรวมในการคำนวณเงินชดเชย ใช่หรือไม่?
(5) การแก้ไขสัญญาสัมปทานจะเสร็จทันก่อน 1 ตุลาคม หรือไม่?
หากไม่ทัน เอกชนจะยอม “ลดค่าโดยสารก่อน แล้วค่อยแก้ไขทีหลัง” หรือไม่? เขาคงต้องไตร่ตรองว่า “เริ่มก่อน แก้ทีหลัง เสี่ยงหรือไม่”?
หากไม่มีกรอบการเจรจาที่ชัดเจน รัดกุม และโปร่งใส ข้าราชการที่เกี่ยวข้องอาจเสี่ยงถูกฟ้องร้องในภายหลัง กรณีมีผู้ร้องเรียนว่า รัฐชดเชยเงินเกินจริง หรือเอื้อผลประโยชน์แก่เอกชน
ผมดีใจที่ค่าโดยสารรถไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย ทุกสาย ทุกสี แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า นโยบายนี้อาจเริ่มแบบ “ไม่พร้อม” แล้วค่อยตามแก้ภายหลัง
ผมอยากให้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท อยู่ได้จริง ไม่ใช่แค่ปีเดียวแล้วจบ
คุณคิดว่าไง? รัฐจะดีลกับเอกชนพร้อมทั้งแก้ไขสัญญาสัมปทานทันก่อนถึงวันดีเดย์ได้ไหม?