วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2568) เวลา 08.00 น. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นางสาวอรณิช สุขบาล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และตำรวจ บก.ปปป. บูรณาการบังคับใช้กฎหมายเข้าจับกุมอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และลูกศิษย์คนสนิท ซึ่งมีชื่อพัวพันกับกรณีการโอนเงินให้กับ “สีกากอล์ฟ”
สืบเนื่องจากกรณีที่สื่อมวลชนรายงานเกี่ยวกับ ดร.พระมหาทิวากร อาภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีชื่อพัวพันกับกรณีการโอนเงินให้กับ “สีกากอล์ฟ” ล่าสุดได้มีการตรวจสอบเชิงลึกจนพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินที่น่าสนใจ โดยพบการโอนเงินจากวัดกว่า 8 แสน เข้าบัญชีลูกศิษย์สนิท ก่อนส่งต่อถึงเจ้าอาวาส ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 จนถึง 13 มิถุนายน 2568 มีบริษัทเอกชนขอใช้พื้นที่ของวัดจอดเรือ และโอนเงินให้วัดรวมเป็นเงินกว่า 870,000 บาท แต่ไม่ได้เข้าบัญชีของวัดโดยตรง หากแต่กลับถูกโอนเข้าบัญชีนายสันติ ผ่องใสศรี ลูกศิษย์ใกล้ชิดของเจ้าอาวาส ก่อนจะถูกโอนต่อให้พระมหาทิวากร และบางส่วนมีการนำไปใช้ส่วนตัว จากนั้นพระมหาทิวากรได้นำเงินจำนวนนี้โอนต่อให้สีกากอล์ฟ
สำหรับอดีตพระมหาทิวากรได้ลาสิกขาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร โดยมีพระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ดำเนินการ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า การลาสิกขาเป็นไปเพื่อความสบายใจของคณะสงฆ์ในจังหวัด และย้ำว่าไม่ได้กระทำผิดตามพระธรรมวินัย พร้อมทั้งระบุว่า รู้จักกับสีกากอล์ฟ จากการมาทำบุญที่วัด และภายหลังเธอได้ติดต่อขอยืมเงินหลายครั้ง โดยอ้างว่าป่วยหนักและไม่มีเงินค่ารักษา รวมยอดที่โอนให้ทั้งสิ้น 1,412,241 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน สีกากอล์ฟได้โอนเงินกลับคืนให้อดีตพระมหาทิวากรเพียงบางส่วน รวม 392,500 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นการคืนทีละหลักหมื่นบาท บางครั้งคืนเป็นเงินสด
สำหรับวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมพร้อมกัน 2 จุด ได้แก่ นายสันติ ผ่องใสศรี ลูกศิษย์ใกล้ชิดของอดีตเจ้าอาวาส ถูกจับกุมที่จังหวัดสมุทรสงคราม และอดีตเจ้าอาวาส ถูกจับที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลถึงที่มาของเงิน รายละเอียดการใช้จ่าย และความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”
“ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด”
