กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.,นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จังหวัดสระบุรี สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ,นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 1 และเจ้าหน้าที่
กรมป่าไม้ ภายใต้การอำนวยการของ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมายให้ นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา
1.นายพลกฤษณ์ฯ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 29/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
2.นายอรุณฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 33/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
3.นายวิชยุตม์ฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 26/2568, 32/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
4.นายกิติวุฒิฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 27/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
5.นายบรรจงฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 30/2568, 31/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
6.นายสิปปกรฯ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 28/2568, 34/2568 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568
โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร ร่วมกันกระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2567 สำนักงาน ปปท.เขต 1 ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบไร่แห่งหนึ่ง กรณีได้รับเอกสารสิทธิ สปก. 4-01 บนพื้นที่สวนป่าที่เคยมีการจับกุมดำเนินคดีและเคยมีคำพิพากษาให้ออกจากพื้นที่ ต่อมาสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ได้ออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่หมู่ 2 ตำบลหนองย่างเสือ จังหวัดสระบุรี โดยแปลงที่ดินมีสภาพเป็นป่าไม่ปรากฏร่องรอยการเพาะปลูกหรือการทำประโยชน์ จำนวน 4 แปลง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรีได้ทำการรังวัดที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ไม่มีสภาพของการทำประโยชน์ แต่กลับรับรองสภาพที่ดิน ที่ทำการรังวัดว่ามีสภาพการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังทำการรับรองคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ครบถ้วน จนออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาแต่ละคนมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำคือ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้จัดทำเอกสารบันทึกการนำรังวัด จัดทำแผนที่แปลงว่าที่ดินที่ทำการรังวัดดังกล่าวมีการทำประโยชน์ในพื้นที่ ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพื่อให้มีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แก่ผู้ยื่นคำขอ เมื่อผู้ต้องหาที่ 1 ทำการรังวัดและออกสารนำทำการรังวัดได้ส่งเอกสารให้ผู้ต้องหาที่ 3 ตรวจสอบและรับรองเอกสารการรังวัดเพื่อยื่นการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และผู้ต้องหาที่ 2 และ 4 ซึ่งอยู่กลุ่มกฎหมายจะต้องตรวจสอบความเป็นเกษตร ว่าเป็นเกษตรกรและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่หรือไม่ หากไม่ได้เป็นเกษตรกรจริงก็จะไม่เข้าคุณสมบัติที่จะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ บุคคลที่มีสิทธิได้รับการพิจารณาคัดเลือกและจัดที่ดินฯ ต้องเป็นผู้ถือครองที่ดินของรัฐที่นำมาเพื่อใช้ในการปฏิรูปฯ การที่ผู้ต้องหาที่ 1 ยังคงดำเนินการรังวัด และผู้ต้องหาที่ 2 รับรองผลการตรวจสอบดังกล่าว ผู้ต้องหาที่ 3 รับรองว่ามีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรมีการเข้าทำประโยชน์ และผู้ต้องหาที่ 5 ลงนามออกใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ และผู้ต้องหาที่ 6 เป็นผู้ปกครองท้องที่รับรองว่าผู้ยื่นคำขอมีการเข้าทำประโยชน์แต่ความเป็นจริงมีสภาพเป็นป่าไม่มีการเข้าทำประโยชน์ จึงเป็นการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เกิดเป็นความเสียหาย ผู้กล่าวหาจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี กำนันตำบลหนองย่างเสือ จังหวัดสระบุรี และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 6 ราย จำนวน 9 หมายจับ กระทั่งวันนี้(8 ส.ค.68) บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.,ป.ป.ท.และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา ในเขตพื้นที่ จ.สระบุรี และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.หญิงกัญญา เปรมทา สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปปป. โทรศัพท์ 09 0924 4542




