“…เมื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นวิกฤตที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้า หนึ่งในบุคคลสำคัญที่มองเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์มาอย่างยาวนานคือสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงได้รับถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพระราชปณิธานอันแรงกล้านี้ถูกสานต่อด้วยพลังจากทุกภาคส่วน? กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดึงพลังความศรัทธาและความร่วมมือจากประชาชน สู่การปฏิบัติจริงด้วยกิจกรรมที่ส่งผลกระทบในระดับมหภาคและเป็นรูปธรรม จนสามารถเปลี่ยน “วัดเล่งเน่ยยี่” ให้กลายเป็นต้นแบบวัดสีเขียวได้อย่างน่าทึ่ง…”












เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการ ได้ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 เพื่อร่วมร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะ “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ”
ในช่วงบ่าย รมว.ทส. ได้เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ทส. รวมใจลดคาร์บอน : ฝุ่น พลาสติก ขยะอาหาร” ณ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งจัดโดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อรณรงค์และส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน ได้แก่ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5, ปัญหาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single Use Plastic) และปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจกที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โอกาสนี้ ดร.เฉลิมชัย ได้มอบประกาศเกียรติคุณ “วัดสีเขียว : ปลอดฝุ่น ลดคาร์บอน” แก่เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส (พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร) เพื่อยกย่องให้เป็นวัดต้นแบบ ที่ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของสถาบันทางศาสนาในการเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดการปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมภายในวัดอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การงดจุดธูปและเผากระดาษไหว้เจ้า การใช้เทคโนโลยีช่วยลดมลพิษ และการจัดการขยะด้วยการคัดแยกขยะรีไซเคิลและขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ







สานต่อพระราชปณิธานด้านสิ่งแวดล้อม
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” (Mother of Biodiversity Conservation) เพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น:
- การอนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุ์สัตว์ป่าหายาก: ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการต่างๆ เช่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อส่งเสริมให้คนอยู่ร่วมกับป่าและช่วยกันดูแลสัตว์ป่าอย่างกลมกลืน
- การอนุรักษ์พันธุ์พืช: ทรงให้ความสำคัญกับการรวบรวมและเพาะพันธุ์พืชหายากและสมุนไพร โดยสะท้อนผ่านการจัดตั้ง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
- การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง: ทรงตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล จึงมีพระราชดำริให้มีการอนุรักษ์ป่าชายเลนและสัตว์ทะเลหายาก เช่น พะยูนและเต่าทะเล
- การส่งเสริมอาชีพควบคู่กับการอนุรักษ์: ทรงส่งเสริมให้ราษฎรมีอาชีพเสริมผ่านงาน ศิลปาชีพ โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างยั่งยืน เป็นการสร้างรายได้และลดการทำลายป่าไปพร้อมกัน
สำหรับประเด็นด้านการ “ลดขยะอาหาร” นั้น มีที่มาจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจพอเพียง เช่น โครงการ ธนาคารอาหารชุมชน (Food Bank) ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นการจัดการทรัพยากรอาหารที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการทิ้งขยะอาหาร และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การส่งเสริมการใช้วัสดุจากธรรมชาติในงานศิลปาชีพก็เป็นส่วนหนึ่งของการลดปริมาณขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้
พระราชกรณียกิจเหล่านี้สะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและลึกซึ้งในการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบนิเวศ และกิจกรรมของ ทส. ในครั้งนี้เอง ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านยังคงได้รับการสืบสานอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยต่อไป