“…คดีนี้มีการบิดเบือนไปมาก จะทำให้เห็นว่าไม่ได้เกิดจากความประมาทที่มีการตกท้ายเรือ ดังนั้นเอกสาร 2 พันกว่าแผ่นของตำรวจ ทั้งที่คนบนเรือมีแค่ 5 คน ทำไมถึงมีการสอบสวนถึง 2 พันกว่าแผ่น พยานมาจากไหนตั้ง 100-200 คน เราใช้ไม่เกิน 15 คน ใช้เวลาไม่นานจะในการพิสูจน์ความจริง เราใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้คน เพราะคนจะมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ ล่าสุดทราบมาว่ามีชุดสืบสวนบอกหมอพรทิพย์ว่ามีแก้วแตกบนเรือแต่ไม่ได้ให้ พฐ.เก็บ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อสงสัยที่ตำรวจไม่สามารถตอบโจทย์ได้เลย…”
วันที่ 27 พ.ค.65 ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ได้เดินทางมาร่วมการแถลงข่าวกับ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของดาราสาว แตงโม นิดา ด้วยนั้น ได้กล่าวว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากแม่อย่างเป็นทางการ วันนี้ตนได้ให้หลักฐานบางส่วนกับแม่ดู เชื่อว่าแม่เข้าใจเรื่องฆาตกรรมอำพรางที่เกิดขึ้น ที่มาถึงวันนี้ได้เพราะส่วนหนึ่งเป็นการผลักดันของสื่อมวลชน
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
ขอขอบคุณอัยการสูงสุด และอัยการจังหวัดนนทบุรี ที่ให้ความสำคัญที่ตนไปยื่นร้องขอความเป็นธรรม จำนวน 8 ข้อ จึงมีคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน เลื่อนการฟังคำสั่งฟ้อง สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือจะมีการพิสูจน์เรือใหม่ และขณะนี้ต่อจิ๊กซอว์ไปได้เยอะแล้ว ต่อไปคือแนวทางของการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางน้องแตงโม
ในการทำคดีนี้ทางชมรมฯ มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและว่าความคดี โดยตนจะเชิญท่านอดีตผู้พิพากษาศาลศาลฎีกามาร่วมเป็นทีมงานด้วย และมีผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 15 คน ทุกสาขา ทั้งด้านการแพทย์ คือ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่จะมีการพิสูจน์เรื่องบาดแผลก้างปลา ที่ไม่ได้ตกท้ายเรือ ซึ่งเป็นจุดตกสำคัญ ที่จะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่ และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ นอกจากนี้ยังมีคนที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบจีพีเอส รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเรื่องแสงและเงา
ที่ผ่านมาแม่เสียเวลาไปเยอะแล้ว และวันนี้สิ่งที่เรารอคอยมา ในการที่ทำให้คุณแม่ยอมรับว่า คดีนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ จะไม่ปิดกั้นการทำงาน จะให้แม่ดูทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส วันจันทร์นี้จะใช้โดรนใต้น้ำสำรวจหาวัตถุพยานสำคัญตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป
ถ้าอัยการสอบ 8 ประเด็นที่ยื่นไป จะทำให้เห็นว่าไม่ได้เกิดจากความประมาทที่มีการตกท้ายเรือ ดังนั้นเอกสาร 2 พันกว่าแผ่นของตำรวจ ทั้งที่คนบนเรือมีแค่ 5 คน ทำไมถึงมีการสอบสวนถึง 2 พันกว่าแผ่น พยานมาจากไหนตั้ง 100-200 คน เราใช้ไม่เกิน 15 คน ใช้เวลาไม่นานจะในการพิสูจน์ความจริง เราใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้คน เพราะคนจะมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ และจะมีการดำเนินคดีกับพยานเท็จที่เราตรวจสอบได้ อาทิตย์หน้าจะมีการดำเนินคดี 1 รายที่เป็นพยานที่ตำรวจนำมาอ้างอิง ซึ่งเป็นพยานเท็จ
เรื่องโดรนใต้น้ำ วันนั้นจะมีพยานมาชี้จุดให้ว่าทิ้งอะไรที่ไหนบ้าง เราไม่ได้คาดหวัง แต่ก็จะสามารถพิสูจน์ทราบให้สิ้นข้อสงสัยได้ มีพยาน 2 คน มาชี้จุดที่เห็นว่าคนบนเรือทิ้งอะไรลงไป เป้าหมายจากสะพานซังฮี้ไปสะพานพระราม 8 ประมาณ 6 กม. ใช้วิธีปูพรม โดยใช้โดรนใต้น้ำ และใช้เครื่องสแกนโลหะ แม้กระทั่งแก้วที่ทิ้งไป และตรวจคราบเลือดในเรือใหม่
เดิมในการหาคราบเลือดต้องทำกลางคืนไม่ใช่กลางวัน เพราะกลางวันจะมีแสงสว่างมองไม่เห็นคราบเลือด หลักฐานใหม่ที่จะโยงไปถึงการฆาตกรรมนั้นยังไม่ขอเปิดเผย ต้องให้ความยุติธรรมกับคนตาย ล่าสุดทราบมาว่ามีชุดสืบสวนบอกหมอพรทิพย์ว่ามีแก้วแตกบนเรือแต่ไม่ได้ให้ พฐ.เก็บ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อสงสัยที่ตำรวจไม่สามารถตอบโจทย์ได้เลย ยืนยันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คดีนี้มีการบิดเบือนไปมาก
ซึ่งตนก็แย้งกับตำรวจมาตลอดว่าไม่เคยน้องแตงโมตกเรือด้านท้ายเรือ สิ่งที่เราเห็นแตงโมหายตัวไปตั้งแต่เวลา 22.12 น. ถึงเวลา 22.32 น. ซึ่งในขณะนั้นเหลือแค่ 5 คนบนเรือ ไม่มีน้องแตงโม นายบอล ได้รับโทรศัพท์จากคนบนเรือ 22.20 น. ตรงกับที่ดูวงจรปิด ส่วนเรื่องบังแจ๊ค จะไปแถลงวันที่ 2 มิ.ย.ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ว่าตนไม่ได้ร่วมมือกับบังแจ๊ค
ด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า คดีนี้ใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี ในการดูแลการต่อสู้คดีตนจะเป็นคนดูแลคุณแม่ และจะดูแลในทุกๆ เรื่อง รวมทั้งสุขภาพด้วย พร้อมซัพพอร์ท ทนายอัจฉริยะ ทุกอย่าง
