







เมื่อวันที่ 19 ก.ย. พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ รับงานก่อสร้างบ้านราคาหลังละ 3–10 ล้านบาท แต่กลับทิ้งงานไปทำโครงการใหม่ ปล่อยให้บ้านหลายหลังค้างคาเป็นเพียงโครงสร้าง ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมสร้างบ้านได้เพียง 40–50% ของงานที่ตกลงไว้ หรือบางรายมีการเบิกเงินเกินจำนวน ทำให้ผู้บริโภคต้องนำเงินตัวเองมาสร้างต่อ ซึ่งปกติหากผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ก็จะเป็นเรื่องแพ่ง แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย กองปราบจึงพิจารณารวมเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เพื่อให้การสอบสวนมีประสิทธิภาพ
เบื้องต้นมีผู้เสียหายประมาณ 100–200 คน ที่ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจ และคาดว่ายอดรวมอาจสูงถึงเกือบ 1,000 ราย เนื่องจากบริษัทรับเหมาดังกล่าวเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2566–2568 และมีผู้เสียหายทั่วประเทศ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า จะมีการรวบรวมเอกสารและผู้เสียหายตามภูมิภาค เช่น ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อวิเคราะห์จำนวนพนักงานสอบสวนที่ต้องใช้ในการสอบสวนครั้งเดียว
ส่วนแนวทางการดำเนินการนั้น เบื้องต้นจะให้กองปราบเป็นผู้ดำเนินการหลัก แต่ยังต้องพิจารณาว่าจะร่วมกับกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) หรือไม่ โดยการสอบสวนจะรวบรวมผู้เสียหายมาสอบพร้อมกันหลายสิบคน เพื่อให้คดีเป็นเอกภาพและตรวจสอบพฤติกรรมการหลอกลวงของบริษัทได้ครบถ้วน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกองปราบและ ปคบ. เคยดำเนินคดีลักษณะเดียวกันมาแล้ว และไม่มีปัญหาในการดำเนินการตามกฎหมาย




