เมื่อวันนี้ (23 ก.ย.68 ) ที่ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ยกเลิกเพิกถอนความเห็นในคดี เนื่องจากเห็นว่าการพิจารณาคดีของตุลาการศาลปกครองไม่เป็นกลาง และไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมของตุลาการศาลปกครอง ซึ่งการมายื่นในวันนี้ เพื่อให้ครบองค์ประกอบ ในการเตรียม ยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องในการพิจารณาคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จำนวน 2 ท่าน ที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ของศาลปกครอง ต่ออาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากกรณีปรากฎคลิปเสียงสนทนาในการแทรกแซงคดี โดยจะไปยื่นฟ้อง อาจจะเป็น วันที่ 25 หรือ 26 กันยายน นี้
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวเปิดใจว่า จนถึงขณะนี้ไม่ต้องตั้งคำถามว่าตนเองจะได้กลับไปเป็นรองผบ. ตร. อีกหรือไม่ ตนเองไม่สนใจแล้วแต่จะเดินหน้าทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างต่อสังคมว่า มีกลุ่มคนบางกลุ่มในศาลปกครองที่ทำให้ภาพลักษณ์ของศาลปกครองเสียโดยการเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาคดี ที่ตนเองเป็นผู้ร้อง พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้แทรกแซงคดี ไม่ได้กระทำการละเมิดอำนาจศาล และกระบวนการพิจารณา แต่ต้องการมาเปิดเผยความจริงให้ ประชาชนทราบ ว่ามีเรื่องในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในการพิจารณาคดีของตุลาการศาลปกครอง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
พลตำรวจเอกสุรเชษฐยังย้ำอีกว่า การที่ตนเองออกมาร้องเรียนและเตรียมยื่นฟ้องในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องต่อสู้หรือเอาคืนกับใคร แต่เป็นเรื่องที่ เมื่อใครทำผิด ก็จะมีกระบวนการในการตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งจากพยานหลักฐาน เอกสาร ต่างๆ พร้อมตั้งคำถามกลับไปว่า ว่า ตั้งแต่มีเรื่องคลิปเสียง ในลักษณะสั่งการแทรกแซงคดี ของบุคคลในศาลปกครอง ปรากฏ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ทางศาลปกครองไม่เคยออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญควรที่จะต้องตั้งโต๊ะแถลงด้วยซ้ำ แต่กลับ
ไม่เคยออกมาพูดเรื่องคลิปเสียง
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุด้วยว่าส่วนตัวยังเชื่อมั่นในกระบวนการของศาลปกครองเพียงแต่ไม่เชื่อมั่นบุคคลบางส่วน ในศาลปกครองเท่านั้น และยังเชื่อว่ายังมีคนดีอยู่ในองค์กรในหน่วยงานนี้เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากตุลาการศาลปกครองในต่างจังหวัดโทรมาให้กำลังใจและอยากให้ตนเองล้างระบบที่ไม่ดีในองค์กรด้วย
