วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2025
หน้าแรกท้องถิ่น”แม่พลอย“ ครูสอนเดินแบบ ฉุนผู้จัดงานประกวดเดินแบบ เบี้ยวเงินรางวัลลูกสาว ร้องกองปราบฯ ช่วย

Related Posts

”แม่พลอย“ ครูสอนเดินแบบ ฉุนผู้จัดงานประกวดเดินแบบ เบี้ยวเงินรางวัลลูกสาว ร้องกองปราบฯ ช่วย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ต.ค.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.พลอย อายุ 35 ปี อาชีพครูสอนเดินแบบ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของ ด.ญ.อลิส ที่เข้าร่วมประกวดเดินแบบบนเวทีแสดงความสามารถของเด็กและเยาวชน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พงส บก.ปคบ.ภายหลังประกวดเสร็จแล้วไม่ได้รับเงินรางวัลตามที่ผู้จัดงานได้โฆษณาไว้ โดยมี จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และ อาจารย์มานพ สีเหลือง ทีมงานฯ ร่วมกันพาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อร้องขอความเป็นธรรม

น.ส.พลอย เปิดเผยว่า งานประกวดดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ค.68 ที่ จังหวัดนครราชสีมา มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกว่า 149 คน แบ่งการประกวดเป็น 5 รุ่น แต่หลังจบงานกลับพบว่าผู้จัดไม่ได้มอบเงินรางวัลและของรางวัลพิเศษซึ่งเป็นทองคำตามที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้

น.ส.พลอย กล่าวต่อ ผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศในรุ่นโต ได้รับเงินรางวัลเพียง 2,000 บาท จากที่ควรได้ 10,000 บาท และยังไม่ได้รับเงินรางวัลตำแหน่ง “พรีเซ็นเตอร์” อีก 10,000 บาทเช่นเดียวกับ “น้องอลิส” บุตรสาวของตน ซึ่งได้รับตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์มูลค่า 10,000 บาทแต่ยังไม่ได้รับรางวัลรวมถึงรางวัลพิเศษ “ทองคำ” อีก 10 รางวัลที่ยังไม่มีการมอบให้ตามสัญญา

จากการเบี้ยวเงินรางวัล ทำให้บรรดาผู้ปกครองที่ได้รับความเสียหายจึงรวมตัวกัน มอบอำนาจให้ตนมาติดต่อ จ่าคิงส์ แตงทิม และทีมงานช่วยเหลือในการประสานงานและติดตามคดี

โดยจ่าคิงส์ยืนยันว่า จะนำเรื่องนี้ส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด

ด้าน อาจารย์มานพ กล่าวว่ากรณีนี้ผู้เสียหายควรรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของงานประกวด, หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร, เอกสารการเข้าร่วมประกวด รวมถึงการสื่อสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้จัดงานเพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีได้ทั้งทาง คดีอาญา (กรณีเข้าข่ายฉ้อโกงหรือโฆษณาเกินจริง)และ คดีแพ่ง (กรณีผิดสัญญา ไม่ชำระเงินรางวัลตามที่ตกลงไว้)


ในขณะเดียวกัน ประชาชนและผู้บริโภคควรมีความตระหนักทางกฎหมายมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อจะเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการเรียกเก็บเงิน หรือให้คำมั่นสัญญาเรื่องรางวัลควรอ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงให้ชัดเจน ตรวจสอบประวัติของผู้จัดงาน และดูความน่าเชื่อถือของผู้สนับสนุนก่อนตัดสินใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือเสียทั้งเงินและความรู้สึกในภายหลัง แม้บางกรณีผู้จัดงานอาจไม่ได้มีเจตนาทุจริต แต่เมื่อรับผิดชอบงานในที่สาธารณะความโปร่งใสและการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา คือสิ่งที่จะช่วยรักษาความเชื่อมั่นจากสังคมได้ดีที่สุด

หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.แล้ววิเคราะห์ว่าคดีนี้น่าจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คองพ์ฯ จึงส่ง น.ส.พลอย ไปพบ พงส.บก.ปคบ.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หลังพบ พงส.บก.ปคบ.แนะนำให้ น.ส.พลอย ไปร้อง สคบ.เพื่อเรียกผู้จัดการประกวดคู่กรณีมาเจรจาต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts