วันอังคาร, ตุลาคม 14, 2025
หน้าแรกอาชญากรรม"จ่าคิงส์" พาเหยื่อร้องกองปราบฯ ถูกผู้จัดดังเบี้ยวค่าตัว-หลอกโปรโมท ตปท. สูญรวม 3 แสนบาท เตือนภัยวงการหนัง

Related Posts

“จ่าคิงส์” พาเหยื่อร้องกองปราบฯ ถูกผู้จัดดังเบี้ยวค่าตัว-หลอกโปรโมท ตปท. สูญรวม 3 แสนบาท เตือนภัยวงการหนัง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ต.ค. 68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พร้อมด้วย อ.มานพ สีเหลือง ทีมงานฯ ได้นำ น้องโอปอลล์ คอสตูม-อาร์ตติส (ออกแบบเครื่องแต่งกายภาพยนตร์) เข้ายื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมและให้ช่วยเตือนภัยสังคม จากกรณีที่ถูกนาย เอ.(นามสมมุติ) ผู้จัดภาพยนตร์รายหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักและมีการอ้างอิงถึงลิขสิทธิ์มิสแกรนด์หน้าบริษัท ก่อเหตุพฤติกรรมฉ้อโกงและเบี้ยวค่าจ้างในการรับงานแสดงและที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน“ราชินีปลาหมอคางดำ”(ชื่อสมมุติ) หลายกรณี ทำให้มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 300,000 บาท

น้องโอปอร์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า นอกจากตนแล้วยังมีบุคคลอื่นๆ อีก 6-7 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของผู้จัดรายนี้ในหลายรูปแบบตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่วันนี้ยังไม่กล้ามาเปิดหน้าแบบตนเพราะถูกนาย เอ. ข่มขู่ท้าทายไว้ ว่าไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ซึ่งเขาทำพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน จนคนในวงการภาพยนตร์รู้กันทั่ว แต่ไม่มีใครอยากยุ่ง พฤติกรรมของนาย เอ. ประกอบด้วยหลายๆ อย่าง เช่น


-หลอกลวงค่าลงทะเบียนไปโปรโมทหนังที่ฮ่องกง ผู้จัดได้เสนอให้ไปโปรโมทภาพยนตร์ที่ฮ่องกง โดยอ้างถึงโควต้าจากกระทรวงวัฒนธรรม และเรียกเก็บค่าลงทะเบียนคนละ 5,000 บาท ผู้เสียหาย 2 คนจ่ายไป 10,000 บาท กำหนดเดินทางกลางเดือนมิถุนายน 2568 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเดินทาง ไม่ได้เงินคืน และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ
-เบี้ยวค่าจ้างแต่งหน้าทำผม ถ่ายภาพยนตร์ ถูกจ้างด้วยวาจาให้ไปแต่งหน้าทำผมถ่ายภาพยนตร์ อ้างตนเองมีชื่อเสียง มีเครดิต ไม่มีการทำสัญญา จ้างคิวละ 1,000 บาท รวม 20 คิว เป็นเงิน 20,000 บาท แต่ถ่ายทำเกินไปมากแล้ว ปรากฏว่าเบิกค่าจ้างได้เพียง 5,000 บาท และยังค้างจ่ายอีกเป็นจำนวนมาก
-สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกนำชื่อไปกล่าวหาต่อบุคคลที่สามในทางเสียหาย ว่าเป็นผู้จัดการเรื่องไปต่างประเทศเองทั้งหมด ทำให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
-ทำงานฟรีในฐานะพิธีกร ถูกจ้างให้ไปเป็นพิธีกรจัดงานประกวดเด็ก โดยอ้างว่าจะได้รับค่าจ้างจากรายได้การประกวด แต่สุดท้ายถูกโทรมาแจ้งว่าไม่มีรายได้ ทำให้ต้องทำงานฟรี
-ค้างจ่ายค่าเช่ารถตู้ขนส่งนักแสดง ถูกจ้างเหมารถตู้รับ-ส่งนักแสดงถึงนครสวรรค์ แต่กลับจ่ายเงินไม่ครบ 2-3 ครั้ง และล่าช้ากว่ากำหนด
-การทำงานที่ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ทุกครั้งที่มีการติดต่องาน ผู้จัดรายนี้จะใช้วิธีโทรศัพท์พูดคุยตลอด เพื่อหลีกเลี่ยงการมีหลักฐานเป็นตัวอักษร
-บังคับให้ทีมงานแต่งหน้าเล่นหนังแทนและเบี้ยวค่าจ้าง
ทีมงานแต่งหน้าของผู้เสียหายถูกบังคับให้เล่นภาพยนตร์แทนนักแสดงที่ไม่มา โดยไม่ได้รับค่าจ้าง และแจ้งว่าจะได้ค่าจ้างเมื่อภาพยนตร์เข้าฉายแล้วเท่านั้น

ผู้เสียหายทั้งหมดที่ตั้งใจมาร้องกองปราบฯ วันนี้เมื่อถูกข่มขู่ท้าทายจึงท้อใจ จากที่นัดหมายรวมตัวกันเพื่อขอให้ จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พามาร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และหวังเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยไปยังบุคคลในสังคมที่คิดจะเข้าสู่วงการบันเทิงให้ระมัดระวังการรับงานกับนายเอ. ผู้จัดที่ไม่มีความชัดเจนในการทำสัญญาและการจ่ายค่าตอบแทน แต่ก็เกรงกลัว ไม่ยอมมาแจ้งความด้วย ตนจึงเดินทางมากับจ่าคิงส์ เพื่อแจ้งความเอาผิดให้ถึงที่สุดแม้ถ้านาย เอ. จะขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหายก็ตาม

ด้าน อ.มานพ สีเหลือง ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า การกระทำของผู้จัดรายนี้เข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และหากมีผู้เสียหายจำนวนมากก็อาจเข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 343 ซึ่งมีโทษหนักขึ้น อ.มานพ ได้เน้นย้ำถึงข้อควรระวังในการรับงานว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำสัญญาว่าจ้างที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจน และควรตรวจสอบประวัติผู้ว่าจ้างให้แน่ใจก่อนรับงานและจ่ายเงินใด ๆ ทั้งนี้ แม้จะไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หลักฐานอื่น ๆ เช่น สลิปโอนเงิน หรือหลักฐานการพูดคุย ก็สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ และแนะนำให้ผู้เสียหายรวมตัวกันไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำตรวจดูพยานหลักฐานก่อนหาทางช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts