“….แก่นแท้ของความสำเร็จของจีนยุคใหม่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่พลิกตัวเองจากสังคมล้าหลังเป็นสังคมก้าวหน้า ด้วยแนวคิดชี้นำที่ว่า”มวลชนคือวีรชนที่แท้จริง” มุ่งสร้างระบบระบอบที่เอื้อต่อการรวมพลังมวลชนทำงานใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมาเจ๋อตง ได้ทำการปลดปล่อยชาวนาชาวไร่ให้พ้นจากแอกเจ้าที่ดิน และอิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตก เติ้งเสี่ยวผิงได้นำประชาชนจีนลุกขึ้นสร้างความทันสมัยให้ประเทศจีน ด้วยการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้าง ปลดปล่อยประชาชนชาวจีนให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตนเอง แล้วนำพาคนจีนที่เหลืออยู่ให้มั่งคั่งตามไปด้วย เพียงสองสามทศวรรษให้หลังเท่านั้น จีนก็ผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้คนจีน”รวยขึ้นมาได้”ตามเป้าหมาย มาถึงจีนวันนี้ สีจิ้นผิงได้ติดอาวุธทางความคิดที่มุ่งเน้นวิทยาการสมัยใหม่ ในการร่วมกันสร้างสิ่งใหม่ๆ นั่นคือ ประเทศจีน”เข้มแข็งขึ้นมาแล้ว” จาก “ลุกขึ้นยืน” เป็น”มั่งคั่งขึ้นมา” จนถึง”เข้มแข็งขึ้นมา” จีนใช้เวลาเพียง75ปี ก็ทำได้สำเร็จด้วย”ยาวิเศษ – แนวทางมวลชน” นี้ ดำเนินการ”ปลดปล่อยมวลชน จัดตั้งมวลชน” ในทุกกาลสมัย ในที่สุดก็จะไปลงเอยที่ผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งกระบวนการ” เริ่มจากมวลชน กลับไปสู่มวลชน” นี้ เมื่อขยายไปสู่ระดับทั้งโลก ก็ย่อมสามารถจุดประกายแห่งความหวังได้เป็นอย่างดี….”

ปลดปล่อยมวลชน จัดตั้งมวลชน รวมศูนย์กำลังทำงานใหญ่ 解放群众,组织群众;集中力量办大事
จากบทวิเคราะห์ที่แล้ว ผู้เขียนพอจะไฮไลต์แก่นแท้ของความสำเร็จของจีนยุคใหม่ได้ว่า ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตั้งแต่ช่วงปฏิวัติสังคม วางรากฐานสังคมนิยม พลิกตัวเองจากสังคมล้าหลังเป็นสังคมก้าวหน้า มาจนถึงช่วงปฏิรูประบบกลไกและเปิดกว้าง พัฒนาประเทศจนเจริญรุ่งเรืองไม่เป็นสองรองใครนั้น สิ่งที่คณะผู้นำพรรคฯตั้งแต่เหมาเจ๋อตงจนถึงสีจิ้นผิงยึดมั่นชัดเจน ก็คือการเดินแนวทางมวลชน ด้วยแนวคิดชี้นำที่ว่า”มวลชนคือวีรชนที่แท้จริง” มุ่งสร้างระบบระบอบที่เอื้อต่อการรวมพลังมวลชนทำงานใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้วยความคิดชี้นำพื้นฐานนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตง ได้ทำการปลดปล่อยชาวนาชาวไร่ให้พ้นจากแอกเจ้าที่ดิน และอิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตก จัดตั้งกันเป็นกองทัพปลดแอก ดำเนินสงครามประชาชน ล้มล้างระบอบสังคมกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา สถาปนาระบอบสังคมนิยม ทำให้คนจีน”ลุกขึ้นยืน” ได้สำเร็จ
ในช่วงการพัฒนาประเทศ เติ้งเสี่ยวผิงได้นำประชาชนจีนลุกขึ้นสร้างความทันสมัยให้ประเทศจีน ด้วยการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้าง ปลดปล่อยประชาชนชาวจีนให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตนเอง โดยส่วนหนึ่งกลายป็นกองทัพผู้ประกอบการและบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลก สร้างความมั่งคั่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วนำพาคนจีนที่เหลืออยู่ให้มั่งคั่งตามไปด้วย
เพียงสองสามทศวรรษให้หลังเท่านั้น จีนก็ผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้คนจีน”รวยขึ้นมาได้”ตามเป้าหมาย
มาถึงจีนวันนี้ ภายใต้การนำของสีจิ้นผิง ประชาชนชาวจีนได้รับการติดอาวุธทางความคิดที่มุ่งเน้นวิทยาการสมัยใหม่ ในการร่วมกันสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้นมาในสังคมจีน โดยเฉพาะทางด้านนวัตกรรมที่จะนำประเทศก้าวขึ้นสู่ความเป็นประเทศชั้นนำทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ศิลปะวัฒนธรรม ที่สามารถส่งให้ประเทศจีนไปยืนอยู่แถวหน้าโลกได้ในทุกๆด้าน จนปรากฏเป็นกองทัพนักประดิษฐ์ชั้นนำขึ้นทั่วแผ่นดินจีน ที่กระจายอยู่ทั่วไปทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย บริษัทห้างร้านและโรงงานอุตสาหกรรมน้อยใหญ่ ภายใต้โครงข่ายประสานเชื่อมและจัดการของหน่วยงานภาครัฐด้วยระบบการสื่อสารล้ำสมัย และห่วงโซ่อุปทานที่ทรงประสิทธิภาพ ตลอดจนตลาดขนาดใหญ่มหึมา ขับเคลื่อนหมุนเวียนด้วยพลวัตมหาศาล ทำให้กระบวนการรวมศูนย์กำลังทำงานใหญ่สามารถดำเนินไปได้ตามต้องการ
อย่างเช่นการทะลุทะลวงฝ่าอุปสรรคการผลิตชิปเอไอคุณภาพสูง ที่สหรัฐฯกับพันธมิตรตั้งกำแพงขัดขวาง ทั้งเครื่องสลักวงจรชิปและอุปกรณ์ที่จำเป็นทุกระดับ ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเกินคาด ก็ด้วยการประสานกันเข้าของจุดขับเคลื่อนต่างๆจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านั้น
ปัจจุบันนี้ ในสายตาชาวโลก จีนประสบความสำเร็จอย่างสูงในแทบทุกด้านของกระบวนการนวัตกรรม ด้วยกองทัพบุคลากรชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนับแสนนับล้าน บนฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้าครบวงจร จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำอย่างเด่นชัดทั้งทางด้านกิจกรรมอวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยีควอนตัม และดวงอาทิตย์เทียม ตลอดจนการพัฒนาโลกให้เป็นโลกสีเขียว
นั่นคือ ประเทศจีน”เข้มแข็งขึ้นมาแล้ว”
จาก”ลุกขึ้นยืน” เป็น”มั่งคั่งขึ้นมา” จนถึง”เข้มแข็งขึ้นมา” จีนใช้เวลาเพียง75ปี ก็ทำได้สำเร็จด้วย”ยาวิเศษ – แนวทางมวลชน” นี้ ดำเนินการ”ปลดปล่อยมวลชน จัดตั้งมวลชน” ในทุกกาลสมัย และในรูปแบบที่สอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของสถานการณ์เสมอ
โดยความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนั้น ในที่สุดก็จะไปลงเอยที่ผลประโยชน์ของประชาชน สร้างความสมหวังให้แก่ประชาชนได้อย่างไม่สิ้นสุด
ซึ่งกระบวนการ” เริ่มจากมวลชน กลับไปสู่มวลชน” นี้ เมื่อขยายไปสู่ระดับทั้งโลก ก็ย่อมสามารถจุดประกายแห่งความหวังได้เป็นอย่างดี
จึงไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า เหตุไฉนข้อเสนอริเริ่มต่างๆของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จึงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาประเทศกำลังพัฒนาหรือ” กลุ่มประเทศโลกใต้” ที่เปรียบเสมือน” มวลชน”ระดับโลกเป็นพิเศษ
คำตอบในใจท่านผู้อ่าน น่าจะไม่พ้นคำว่า “ปลดปล่อย” และ”จัดตั้ง” นะครับ!
ไขคำจีน
解放 เจี่ยฟ่าง ปลดปล่อย
组织 จู่จือ จัดตั้ง