วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 23, 2025
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่สัญญาณอันตราย "ไล่ชิงเต๋อ"? KMT ส่ง "เจิ้งลี่เหวิน" นำทัพสู้ศึก 2027

Related Posts

สัญญาณอันตราย “ไล่ชิงเต๋อ”? KMT ส่ง “เจิ้งลี่เหวิน” นำทัพสู้ศึก 2027

คะแนนนิยมของประธานาธิบดี “ไล่ชิงเต๋อ” กำลังสั่นคลอน! ล่าสุด พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) เปิดตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ “เจิ้งลี่เหวิน” หญิงแกร่งคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรรค ผู้มีประวัติไม่ธรรมดาเพราะเคยอยู่พรรค DPP มาก่อน “ดร.อู๋-ธารากร” วิเคราะห์ตรงจุดว่า การกลับมาของนโยบาย “จีนเดียว” (ฉันทามติ 1992) คือกุญแจสำคัญที่ KMT หวังใช้เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ กอบกู้เศรษฐกิจที่กำลังฝืดเคือง และกรุยทางสู่เก้าอี้ผู้นำ นี่คือเดิมพันของ KMT ที่จะใช้จุดอ่อนเรื่องปากท้องและนโยบายแข็งกร้าวต่อจีนของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นบันไดสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2027

“สืบเศรษฐกิจ” วันนี้ได้มีโอกาสสนทนาพิเศษกับ ดร. ธารากร วุฒิสถิรกูล หรือ “ดร.อู๋” ประธานสถาบันวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาบีอาร์ไอ (BRI) ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากการสังเกตการณ์การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่ไต้หวันสดๆ ร้อนๆ

ดร. ธารากร วุฒิสถิรกูล หรือ “ดร.อู๋” ประธานสถาบันวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาบีอาร์ไอ (BRI)

ดร.อู๋ เปิดเผยว่า บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันภายในพรรค โดยใช้สาขาพรรคในแต่ละหัวเมืองเป็นจุดลงคะแนน ไม่ใช่การเลือกตั้งใหญ่ระดับประเทศ แม้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เพียง 39.46% แต่ผลลัพธ์ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง

“เจิ้งลี่เหวิน” ม้ามืดอดีต DPP

ดร.อู๋ ยืนยันว่า เจิ้งลี่เหวิน (Cheng Li-wen) คือหัวหน้าพรรค KMT ที่เป็นสตรีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรรค ต่อจาก หงซิ่วจู้ (Hung Hsiu-chu)

“เธอคือม้ามืดตัวจริง” ดร.อู๋ กล่าว “เพราะเธอเคยเป็นสมาชิกพรรค DPP ซึ่งเป็นรัฐบาลปัจจุบันมาก่อน และรู้ไส้รู้พุงพรรค DPP เป็นอย่างดี เธอลาออกมาเพราะนโยบายไม่ตรงกัน และไต่เต้าขึ้นมาจนกลายเป็นดาวรุ่งของ KMT ในวันนี้”

นอกจากนี้ ภูมิหลังของเธอยังน่าสนใจ โดยมีบิดาเป็นทหาร KMT ที่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน และมารดาเป็นคนไต้หวันแท้ๆ

นโยบาย “จีนเดียว” และความสัมพันธ์กับแผ่นดินใหญ่

แม้จะเคยอยู่ DPP แต่จุดเด่นของ เจิ้งลี่เหวิน คือนโยบายที่ชัดเจนเรื่อง “จีนเดียว” (One China) ดร.อู๋ อธิบายว่า “จีนเดียว” ของ KMT นั้นยึดตาม ฉันทามติ 1992 (1992 Consensus) ที่สิงคโปร์ ซึ่งหมายถึงการที่ทั้งสองฝ่าย (ไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่) ตกลงว่ามีจีนเดียว แต่ต่างคนต่างนิยามความหมายของตนเอง โดย KMT มองว่าจีนเดียวคือ “สาธารณรัฐจีน” (ROC) ไม่ใช่ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” (PRC)

ดร.อู๋ เชื่อมั่นว่า ด้วยสายสัมพันธ์ดั้งเดิมระหว่างพรรค KMT และพรรคคอมมิวนิสต์จีน เจิ้งลี่เหวิน จะสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ได้ดีกว่ารัฐบาล DPP ของ ไล่ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) อย่างแน่นอน

เดิมพัน 2027: KMT จ่อทวงคืนอำนาจ?

ประเด็นสำคัญที่ ดร.อู๋ ชี้ให้เห็น คือ โอกาสที่ KMT จะกลับมาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2027)

“พรรค KMT ยังเป็นพรรคใหญ่ในสภา มี 51 ที่นั่ง” ดร.อู๋ วิเคราะห์ “ขณะที่คะแนนนิยมของท่านประธานาธิบดี ไล่ชิงเต๋อ ไม่ได้ดีเหมือนเดิม กระแสตก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ”

ดร.อู๋ ขยายความว่า นโยบายของ DPP ที่พยายามตัดขาดจากจีนแผ่นดินใหญ่ ส่งผลกระทบหนักต่อนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป และการส่งออกสินค้าเกษตรที่เคยพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลัก ทำให้เศรษฐกิจไต้หวันฝืดเคือง นี่คือจุดอ่อนที่ KMT ภายใต้การนำของ เจิ้งลี่เหวิน จะใช้โจมตีในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนโอกาสการรวมชาติจีนในเร็ววันนี้ ดร.อู๋ มองว่า “เป็นไปได้ แต่ต้องใช้เวลา” อาจจะ 20 ปีขึ้นไป เพราะปัจจัยภายนอกอย่าง สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังคงมีอิทธิพลสูง

ประเด็นอื่นๆ: เศรษฐกิจจีน-ไทย

ในช่วงท้าย ดร.อู๋ ในฐานะประธานสถาบัน BRI ยังได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนในช่วง 9-10 เดือนที่ผ่านมาว่า น่าจะเติบโตไม่เกิน 5% (แม้จีนจะเคลมว่า 5-6%) และชี้ว่าการค้าไทย-จีนยังคงไปได้ดี

ส่วนการท่องเที่ยวไทย ดร.อู๋ มองว่า แม้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมา แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องความเข้มงวดในการตรวจสอบการใช้จ่าย และฝากถึงรัฐบาล (ซึ่ง ดร.อู๋ ระบุว่าเป็น “ยุคของอนุทิน… พรรคภูมิใจไทยที่มาบริหารประเทศชั่วคราว 4 เดือน”) ว่าต้องใช้โอกาสนี้เร่งปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด และคอร์รัปชัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น หากทำได้ก็จะเป็นโอกาสทองของพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts