กสม. เปิดผลสอบชัด หน่วยงานความมั่นคงถูกกล่าวหาจัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลและองค์กรที่เห็นต่างทางการเมือง พร้อมใช้ปฏิบัติการข่าวสาร (IO) โจมตีผ่านสื่อออนไลน์ ชี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง แนะกระทรวงกลาโหมตรวจสอบเร่งด่วน พร้อมยุติการเฝ้าระวัง-ติดตามความเคลื่อนไหวประชาชนโดยไร้ฐานกฎหมาย

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนางสาวหรรษา หอมหวล เลขาธิการ กสม. แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 36/2568 เผยผลตรวจสอบ 2 กรณีสำคัญ หนึ่งในนั้นคือเรื่อง หน่วยงานความมั่นคงจัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมายบุคคลและองค์กรเฝ้าระวัง และใช้ IO โจมตีประชาชนและนักการเมือง
นายวสันต์ เปิดเผยว่า กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนเมษายน 2568 จากประชาชนรายหนึ่ง หลังพบข้อมูลในสภาผู้แทนราษฎรว่า หน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกันจัดทำบัญชีบุคคลและองค์กรที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง เช่น นักวิชาการ นักกิจกรรม และเยาวชน พร้อมใช้ข้อมูลดังกล่าวโจมตีทางสื่อออนไลน์
หลังการตรวจสอบ กสม. พบว่า แม้หน่วยงานที่ถูกร้องจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เอกสารลับระดับ “ลับที่สุด” จากคณะทำงานความมั่นคงพิเศษกองทัพบก รวมถึงเอกสาร “ลับมาก” ของ กอ.รมน. ระบุชัดถึง แผนปฏิบัติการข่าวสาร โครงสร้างคณะทำงาน และบัญชีรายชื่อกลุ่มเป้าหมายที่มีข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ–นามสกุล วันเกิด หมายเลขประชาชน ที่อยู่ หมายเลขทะเบียนรถ ไปจนถึงพฤติกรรมและทัศนคติทางการเมืองของบุคคลต่าง ๆ
เอกสารยังชี้ว่ามีการใช้เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมาย ตอบโต้ข้อมูล และสร้าง “ภาพจำเชิงลบ” ต่อบุคคลหรือองค์กรที่เห็นต่าง ถือเป็น การแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ และไม่มีฐานกฎหมายรองรับ
กสม. ระบุว่า การจัดทำบัญชีเช่นนี้จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายบัญญัติชัดเจน เช่น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย แต่ในกรณีนี้ไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจหน่วยงานดังกล่าวดำเนินการ จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ กสม. ได้มี ข้อเสนอแนะต่อกระทรวงกลาโหม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด และรายงานต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำให้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดว่า การดำเนินการใด ๆ ที่จำกัดหรือแทรกแซงสิทธิประชาชน ต้องมีฐานทางกฎหมายและได้สัดส่วนต่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น
นอกจากนี้ กสม. ยังเรียกร้องให้ ยกเลิกการจัดทำบัญชีบุคคลและองค์กรเฝ้าระวังทันที รวมถึงยุติการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสันติ เพราะเป็นการกระทำที่บั่นทอนบรรยากาศประชาธิปไตย และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล









