ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม เปิดปฏิบัติการล่าคนร้ายสำคัญ บุกจับกุม นายวรวัฒน์ฯ ครูสอนวิชาสังคม อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี หลังก่อเหตุสะเทือนขวัญ ล่วงละเมิดทางเพศศิษย์ชายอายุ 14 ปี ในขณะเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้ความเป็นครูข่มขู่และล่อลวง ก่อนจะติดตามจับกุมได้ที่กรุงเทพฯ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.ภานุพงศ์ จันตะกูล สว.กก.5 บก.ป. พร้อมชุดจับกุม เข้าดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.573/2568 ได้บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ ซอยม้าศึก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
นายวรวัฒน์ฯ ถูกตั้งข้อหาความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล และพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา”
พฤติการณ์สุดเหี้ยมโหดของครูผู้ต้องหา คดีนี้สืบเนื่องจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดกิจกรรมพานักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือ โดยผู้ต้องหาซึ่งเป็นครูสอนวิชาสังคมได้เดินทางไปด้วย และมีพฤติการณ์สร้างความสนิทสนมกับนักเรียนชายที่เป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของตนเป็นพิเศษ
ขณะเกิดเหตุที่ค่ายลูกเสือ เด็กนักเรียนผู้เสียหายอายุเพียง 14 ปี ถูกผู้ต้องหาใช้ความเป็นครูข่มขู่และหลอกลวงไปกระทำอนาจาร ก่อนจะกระทำชำเราในสถานที่ลับตาคน หลังจากก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหาได้ข่มขู่เด็กไม่ให้บอกใคร แต่ภายหลังเด็กมีอาการบาดเจ็บที่ทวารหนัก ทำให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
จากการสืบสวนและติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่กรุงเทพฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”





