ทลาย “วิมานดิน”! อดีตนิสิตกฎหมายผันตัวเป็นพ่อเล้า บังคับเด็กสาวค้ากามกลางกรุง

ช็อก! อดีตนิสิตกฎหมายดัง ผันตัวเป็น “พ่อเล้า” บังคับเด็กหญิงวัย 14 ค้ากามกลางกรุง ปคม. บุก “ทลายวิมานดิน”

เปิดโปงอาชญากรรมสุดสะเทือนใจ! ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และ ศตคม.ตร. เปิดปฏิบัติการ “ทลายวิมานดิน” รวบคู่สามีภรรยาเจ้าของโรงแรมกลางกรุงเทพฯ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นอดีตนิสิตกฎหมายจากสถาบันดัง แต่ผันตัวเป็น “พ่อเล้า-แม่เล้า” บังคับขู่เข็ญเด็กหญิงอายุเพียง 14-15 ปี ค้าประเวณีอย่างโหดเหี้ยม ยึดของกลางทั้งยาคุมฉุกเฉินและที่ตรวจครรภ์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการครั้งสำคัญ เพื่อกวาดล้างการค้ามนุษย์และแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและเยาวชน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. เข้าตรวจค้นโรงแรม 2 แห่ง ในพื้นที่แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายธนัช ฯ หรือวิท อายุ 58 ปี (อดีตนิสิตกฎหมายสถาบันดัง) และ นางสาวกรวรรณ ฯ หรือบูม อายุ 37 ปี คู่สามีภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมและร่วมกันก่อเหตุ

ทั้งสองถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่เด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปี และบุคคลอายุยังไม่เกินสิบแปดปี รวมถึงข้อหาเป็นธุระจัดหาและกระทำด้วยประการใด บังคับ ขู่เข็ญ ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

การสืบสวนเปิดโปงกลโกงและพฤติการณ์สุดชั่วร้าย
ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มจากการที่เจ้าหน้าที่ บก.ปคม. ตรวจพบเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “รับงาน” ซึ่งโพสต์ภาพหญิงสาวเพื่อการค้าประเวณีอย่างโจ่งแจ้ง โดยมีภาพของเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงใช้สายลับติดต่อล่อซื้อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ มีการส่งภาพเด็กหญิงให้เลือกหลายราย และตกลงค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,500 บาท โดยหักค่านายหน้า 300 บาท

จากการขยายผลในปฏิบัติการล่อซื้อ เจ้าหน้าที่พบกับเด็กสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง อายุเพียง 15 ปี ซึ่งถูกส่งตัวมาค้าบริการทางเพศ และให้การว่า มีเด็กหญิงอีกหลายรายถูกบังคับค้ากามภายในโรงแรมดังกล่าว

ข้อมูลที่น่าตกใจที่สุดมาจากการสอบปากคำเด็กหญิงอายุ 15 ปีรายหนึ่งที่เล่าว่า เธอเคยหนีออกจากบ้านและมาขอเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่นายธนัชฯ ผู้เป็นเจ้าของโรงแรม ฉวยโอกาสเข้ามาตีสนิท และ ล่อลวงให้ “รับงานชงเหล้า” แต่เมื่อลูกค้าพยายามล่วงละเมิดทางเพศและเธอปฏิเสธ นายธนัชฯ กลับดุด่าและบังคับให้เธอไปมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า พร้อมทั้งไม่จ่ายค่าทำงานให้

ต่อมา นางสาวกรวรรณฯ ภรรยาของนายธนัชฯ ก็ได้ใช้อุบายหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน พาเธอไปรับงานขายบริการทางเพศ โดยหักเงินค่าตัวไป 200 บาท ในการล่อซื้อพบว่าผู้ต้องหาจัดหาเด็กสาวอายุเพียง 14-15 ปีมาให้บริการจริง และมีการโอนเงินค่าบริการเข้าบัญชีของ นางสาวกรวรรณฯ ทุกครั้ง

นอกจากนี้ ยังพบว่า คดีค้ามนุษย์ที่ สน.บางรัก เคยจับกุมผู้ต้องหาและช่วยเหลือผู้เสียหายอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 2 ราย ก็พบว่าเคยพักและถูกบังคับค้าประเวณีที่โรงแรมแห่งนี้เช่นกัน และในวันตรวจค้นจับกุม เจ้าหน้าที่ยังพบเด็กหญิงอายุเพียง 16 ปี ที่พักอยู่ในห้อง และให้การว่าถูกนายธนัชฯ บังคับค้าประเวณี ได้เงินครั้งละ 1,000 บาท ทำมาแล้ว 3 ครั้ง

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางสำคัญที่บ่งชี้ถึงการแสวงหาประโยชน์ทางเพศอย่างชัดเจน อาทิ ยาคุมฉุกเฉิน, ยาเม็ดสอดช่องคลอด, ที่ตรวจครรภ์ , ถุงยางอนามัย และสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของเด็ก เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

คำเตือนถึงผู้ปกครอง
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร./ผอ.ศตคม.ตร. ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครองทุกท่านด้วยความห่วงใย ให้ใส่ใจดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นที่พึ่งที่ปลอดภัยที่สุด ป้องกันไม่ให้พวกเขาหลงเดินทางผิด ไปเจอกับผู้ไม่หวังดีที่รอฉกฉวยโอกาสจากความอ่อนแอ