สุดสะเทือนใจ! แม่ร่ำไห้ร้อง “กองปราบฯ” หลังลูกชายวัย 17 นักเรียน ม.5 ถูกรถเก๋งเฉี่ยว ก่อนถูกรถกระบะทับศีรษะเสียชีวิต คดีผ่านไปเกือบปีแต่ไร้ความคืบหน้า เผยคู่กรณีอาจมีตำแหน่งใหญ่ในพื้นที่ วอนเร่งรัดตรวจสอบคืนความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” และ “อาจารย์มานพ สีเหลือง” ทีมงานช่วยเหลือประชาชน พานางสมสกุล (นามสมมุติ) มารดาของนายพิชากร กองหิน อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอความเป็นธรรม หลังคดีลูกชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อเกือบ 1 ปีก่อนยังไม่มีความคืบหน้า
นางสมสกุล เล่าด้วยน้ำตาว่า “น้องเซเว่น” ลูกชายของเธอ ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งของหารายได้พิเศษเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 แต่ถูกรถเก๋งเฉี่ยวจนร่างกระเด็น ก่อนถูกรถกระบะที่ตามมาทับศีรษะเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
“ลูกฉันอายุแค่ 17 ปี ตั้งใจเรียน ทำงานช่วยครอบครัว แต่ผ่านมาเกือบปี ตำรวจเรียกไปแค่ครั้งเดียว ไม่มีคำตอบ ไม่มีความคืบหน้า จะให้รออีกกี่ปีถึงจะได้ความยุติธรรม?”
มารดาผู้สูญเสียกล่าวด้วยเสียงสั่น
เธอยังตั้งข้อสงสัยว่า รถเก๋งคู่กรณีอาจเป็นของบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้คดีดำเนินไปอย่างล่าช้าและไร้ความชัดเจน
ด้านอาจารย์มานพ สีเหลือง ทีมงานช่วยเหลือประชาชน กล่าวเพิ่มเติมว่า ความล่าช้าในคดีเช่นนี้ถือเป็น “ต้นทุนทางสังคม” ที่สูงยิ่ง เพราะไม่เพียงสร้างความทุกข์ให้ครอบครัวผู้สูญเสีย แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม
“คดีอุบัติเหตุที่เกิดมานานกว่า 11 เดือน ไม่ควรปล่อยให้เงียบหาย โดยเฉพาะเมื่อมีข้อสงสัยถึงอิทธิพลของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ควรเร่งรัดและแจ้งผลการสอบสวนให้ชัดเจน เพื่อยืนยันความเสมอภาคทางกฎหมาย”
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำมารดาผู้เสียชีวิต และเตรียมประสานไปยัง สภ.ธัญบุรี เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แม่ผู้สูญเสียฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
“ขอแค่ความยุติธรรมให้ลูก ฉันไม่ได้อยากได้อะไรนอกจากให้ลูกชายคนเดียวของฉันได้รับความเป็นธรรมในชาตินี้”













